‘Reality Labs’ ของ ‘Meta’ Q4 ขาดทุน 1.4 แสนล้านบาท รวมทั้งปีขาดทุนยับ 4.52 แสนล้านบาท

Meta เมตาเวิร์ส
(Photo: Meta)
ถือเป็นฝันราคาแพงของ Mark Zuckerberg เจ้าของ Meta ที่พยายามจะสร้าง Metaverse เพราะในไตรมาส 4/2022 แผนก Reality Labs ที่ใช้พัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR ได้ขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 4.28 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) ทำให้ยอดขาดทุนรวม เป็น 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 4.52 แสนล้านบาท)

นับตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ Facebook ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่จะไปสู่ Metaverse ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ ที่มองว่าจะเป็นอนาคตของบริษัท แต่ปัจจุบันบริษัทยังคงมี รายได้จากการโฆษณาเป็นรายได้หลัก ส่วนการทำเกี่ยวกับ Metaverse ยังหนักไปทางเผาเงิน

โดยในส่วนของ Reality Labs ช่วง Q4/2022 สามารถสร้างรายได้ 727 ล้านดอลลาร์ ลดลง 17% โดยขาดทุนถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์ และภาพรวมทั้งปีทำรายได้ 2.16 พันล้านดอลลาร์ โดยลดลงจาก 2.27 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021 โดยในปี 2022 ทั้งปี ส่วนของ Reality Labs ขาดทุนรวม 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือพูดง่าย ๆ ว่าบริษัท ขาดทุน 6 เท่า เมื่อเทียบกับรายได้ และปัจจุบันรายได้ในส่วนนี้มีสัดส่วน ไม่ถึง 2% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

แม้จะดูขาดทุนหนักแต่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เคยออกมาบอกว่า หาก Meta จะกลายเป็นผู้เล่นหลักของ Metaverse ในอนาคต บริษัทอาจต้อง ยอมสูญเงินกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ติดต่อกันเป็นเวลาอีกหลายปี แต่โอกาสของ Metaverse นั้นคือการเข้าถึงผู้คนกว่าพันล้านคน และมีค่าใช้จ่ายกว่า 100 ดอลลาร์/คน ภายใน 10 ปีข้างหน้า

สำหรับรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทใน Q4/2022 อยู่ที่ 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,652 ล้านดอลลาร์ แม้ว่ารายได้รวมจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ประมาณ 3.15 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่กำไรกลับต่ำกว่าที่คาดและถือว่า ลดลงถึง 55% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทก็เด้งขึ้นมา 20% เนื่องจากบริษัทประกาศจะซื้อคืนหุ้นมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังออกมาพูดถึงทิศทางในปี 2023 ว่า “รูปแบบการจัดการของเราในปี 2023 คือ ปีแห่งประสิทธิภาพ และเรามุ่งเน้นไปที่การเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและว่องไวมากขึ้น”

ทั้งนี้ บริษัทจะปรับลดค่าใช้จ่ายในปี 2023 ที่ 89,000-95,000 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ 94,000-100,000 ล้านดอลลาร์

Source