บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN สร้างประสบการณ์ใหม่การกินสาหร่าย เปิดตัว “สาหร่ายอบลองซีต” แบบแผ่นยาว 2 รสชาติใหม่ “รสออริจินัล” และ “รสชิลลี่” เติมเต็มความสนุกในการกิน แหวกแนวกว่าที่เคยมีมา กินได้ต่อเนื่อง อร่อยง่ายมือไม่เปื้อน เอาใจวัยรุ่น Gen Z- Gen Alpha ตอกย้ำกระแสสาหร่ายอบในไทย หลังขึ้นแท่นผู้นำตลาดสาหร่ายทุกเซกเมนต์
นายพิศาล ธาราพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารรายได้ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสาหร่ายในประเทศไทยปี 2565 มีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นสาหร่ายทอด 55% สาหร่ายอบ 30% สาหร่ายย่าง 13% และที่เหลือเป็นสาหร่ายอื่นๆ โดยปัจจัยการเติบโตมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จับจ่ายซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวพร้อมรับประทานมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย และ TKN มีอัตราการเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 65% ของตลาดรวม ซึ่งจากความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา TKN ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถฝ่าวิกฤตมาได้ ด้วยการปรับตัวให้เร็ว ยืดหยุ่น เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ และยังเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ขณะที่ปี 2566 คาดว่าภาพรวมภาพรวมตลาดสาหร่ายยังเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารและขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น สาหร่ายถือเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะสาหร่ายอบมีอัตราการเติบโตมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา กว่าเท่าตัวนอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญ คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการจะผ่อนคลายโควิดของประเทศของจีน ทำให้ภาครัฐตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 ล้านคน โดย “เถ้าแก่น้อย” ถือเป็นแบรนด์ยอดนิยมของชาวจีนที่ชื่นชอบสแน็กหรือซื้อเป็นของฝากเป็นอย่างมาก
ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารรายได้ TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดสาหร่ายอบ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตสูง ภายหลังจากในช่วงกลางปี 2565 ได้ออกสินค้าในกลุ่ม สาหร่ายอบ โดยนำคาแรคเตอร์ BT21 ยอดฮิตเข้ามาอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยสามารถขยายฐานผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ ‘เถ้าแก่น้อย’ ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายสาหร่ายเพิ่มขึ้น ครองตำแหน่งผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1 ในทุกๆกลุ่ม ทั้ง ทอด อบ ย่าง บริษัทฯ จึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รสชาติใหม่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น
ล่าสุด ‘เถ้าแก่น้อย’ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งความอร่อย ด้วยผลิตภัณฑ์สาหร่ายแนวใหม่ เพิ่มความสนุกในการกินแบบไม่ขาดตอน เปิดตัวสินค้าใหม่ “สาหร่ายอบลองชีต” 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล และ รสชิลลี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เถ้าแก่น้อย สาหร่ายลองซีต แผ่นยาว อร่อยยาว สนุกยาวกว่า’ ด้วยดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่ง่ายต่อการบริโภค แหวกแนวสาหร่ายที่เคยมีมา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงได้ปรับรูปแบบสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ต้องการขยาย โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภควัยเด็กและวัยรุ่น Gen Z- Gen Alpha ที่ชอบกิจกรรมที่สนุกสนานท้าทาย เพราะแผ่นยาวช่วยให้กินเพลินไม่ต้องเสียเวลามาหยิบทีละแผ่น สนุกต่อเนื่องในการรับประทาน ไม่เปื้อนมือ ไม่ต้องดูดนิ้ว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ทั้งความอร่อยและมีประโยชน์สูงอีกด้วย เพื่อสร้างการจดจำ “ถ้าสาหร่ายต้องเถ้าแก่น้อย”
ทั้งนี้ พบกับ ผลิตภัณฑ์สาหร่ายอบลองชีต ตราเถ้าแก่น้อย ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่มาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ รวมถึงแอคเคาท์ของ TaokaenoiClub ทุกช่องทาง ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok และ LINE วางจำหน่ายในขนาด 1.6 กรัม ราคาเพียง 12 บาทต่อซอง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษแจกรางวัลแกดเจ็ตสุดคูล ทุกวัน แจกยาวๆ 100 วัน รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เพียงนำรหัสในซองมาลุ้นที่ LINE Official Account: TaokaenoiClub ติดตามรายละเอียดได้ที่ Fanpage: TaokaenoiClub
Related