ผลประกอบการ KERRY ปี 65 ขาดทุนกว่า 2.8 พันล้าน พิษต้นทุนพุ่ง ตลาดแรงงานตึงตัว

KERRY Express เปิดผลประกอบการปี 65 ขาดทุนกว่า 2.8 พันล้านบาท เจอพิษต้นทุนพุ่ง ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดแรงงานที่มีสภาวะตึงตัวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เผยปีนี้มุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดพึ่งพาแรงงาน

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับรายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 โดยพบว่า บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 2,829.8 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน และมีรายได้รวม 17,003 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากปีก่อนหน้า โดยสาเหตุมาจากต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดแรงงานที่มีสภาวะตึงตัวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น +44.7% อยู่ที่ 1,996.4 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 ปี 2565 KEX ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งการลดค่าใช้จ่ายและทรัพยากรส่วนเกินเชิงรุก การปรับโครงสร้างของพนักงานในองค์กร การปิดสาขาจุดให้บริการ และศูนย์กระจายพัสดุที่มีต้นทุนสูง และประสิทธิภาพต่ำ การปรับปรุงการดำเนินงาน ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 384.2 ล้านบาท ใน 2565 รวมถึงค่าชดเชยพนักงาน และใช้จ่ายในการปิดสาขา และศูนย์บริการต่างๆ

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเงินสด และเงินลงทุนในสินทรัพย์สภาพคล่องรวม 2,963.1 ล้านบาท ลดลง 59.4% จากปีก่อน เนื่องจากใช้การดำเนินงาน และจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถเพิ่มการจัดส่งพัสดุได้เพิ่มขึ้น 18% แต่ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อตลาดกลับเข้าสู่ช่วงภาวะปกติ ตามด้วยการเปิดประเทศ และธุรกิจ E-Commerce เติบโตชะลอตัวลง ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถลดต้นทุนการจัดส่งต่อหน่วยได้รวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทฯ วางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลงทุนปรับปรุงกระบวนการและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานคน และมุ่งเน้นปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดี เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย