ตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งตลาดรองเท้าวิ่ง ด้วยพัฒนาการของรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Clifton ของ HOKA จากสาย Performance สู่ความเป็น Lifestyle สวมใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Enter Running Bliss” มุ่งเน้นสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศ ทุกวัย ส่งให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกเหนือ จากนักวิ่งสายเพอร์ฟอร์แมนซ์เพียงกลุ่มเดียว
นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา (CEO) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด กล่าวว่า กระแสการรักษาสุขภาพยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความนิยมของการวิ่งยังไม่หยุดง่ายๆ เช่นเดียวกับรองเท้า HOKA แบรนด์รองเท้าวิ่งจากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด จัดงานเปิดตัวรองเท้า “HOKA Clifton 9” รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดประจำตระกูล Clifton ที่กลับมาพร้อมเมเจอร์เชนจ์ในรอบ 2 ปี ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “Enter Running Bliss” ซึ่งต้องการให้รองเท้า “Clifton 9” เป็นโมเดลรุ่นยอดนิยม ใส่ง่าย ใส่สบายในทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับการใส่เดินเที่ยว ใส่ยืนนานๆ และใส่ออกกำลังกายแบบเบาๆ ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสายคอมฟอร์ตซูส์ ถูกคิดค้นเพื่อใช้สำหรับการวิ่งออกกำลังกายได้ทุกวันเหมาะสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่หรือนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมในทุกวัน โดยเฉพาะสีสันที่ใส่ความเป็นไลฟ์สไตล์และแฟชั่นมากขึ้น ไม่ได้เน้นสี color block เหมือนรองเท้าวิ่งรุ่นอื่นๆที่ผ่านมา ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี
“Clifton 9” สามารถลดน้ำหนักรองเท้าลงได้ถึง 4 กรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมเพิ่มความหนาของพื้นสูงขึ้นถึง 3 มม. เพื่อยกระดับรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาและความนุ่ม มอบประสบการณ์ความนุ่มสบายใต้ฝ่าเท้ากับพื้นชั้นกลางรูปแบบใหม่และยังมีการปรับปรุงพื้นรองเท้าชั้นนอกใหม่ ส่วนบนมาพร้อมกับส้นเท้าที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ง่าย จุดสะท้อนแสงที่ส้นเท้าและลิ้นรองเท้าที่คล่องตัว เพื่อให้เหล่านักวิ่งค้นพบความสุขในการวิ่งและกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ด้วยพื้นชั้นกลาง compression-molded EVA ที่มีน้ำหนักเบาและการตอบสนองที่ดี พร้อมมีการวางโครงสร้างแบบ early-stage Meta-rocker อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นอย่างสม่ำเสมอ คอยส่งให้นักวิ่งสามารถก้าวเท้าออกไปได้อย่างราบรื่นตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนถึงกิโลเมตรสุดท้าย
“Clifton 9” ที่ปรับโฉมใหม่นี้มอบประสบการณ์ความสมบูรณ์แบบระหว่างความนุ่มและน้ำหนักเบา มาในดรอป 5 มม. ความสูงของปลายเท้า 24 มม. ความสูงของส้นเท้า 29 มม. สำหรับผู้หญิง และความสูงของปลายเท้า 27 มม. ความสูงของส้นเท้า 32 มม. สำหรับผู้ชาย มีน้ำหนักน้ำหนัก 7.3 ออนซ์ สำหรับผู้หญิงในไซซ์ 7 และ 8.7 ออนซ์สำหรับผู้ชายในไซซ์ 9 HOKA Clifton 9 ราคา 5,290 บาท
นอกเหนือจาก “HOKA” จะเป็นผู้นำทางด้านรองเท้าวิ่งแล้ว แบรนด์ยังมีสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ อาทิ เช่นสินค้ากลุ่มเดินเขา (hiking), เดินป่า (trekking), รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ (Ora recovery) และล่าสุดกำลังจะมีการ Launch รองเท้ากลุ่ม Transport ซึ่งเป็นรองเท้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับกลุ่มคนที่ชอบความคล่องตัวในการเดินทาง เช่น การปั่นจักรยานในเมืองเป็นต้น
บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด ได้เล็งเห็นถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ท้าทายและถือเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ในประเทศไทย ทั้งนี้ยังคงให้ความสนใจกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ และแฟชั่นมากขึ้น ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่การออกกำลังกาย จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับพวกเขาในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้จากรองเท้า Collabroration Collection ที่ได้ร่วมมือกับศิลปินระดับโลก หรือศิลปินที่ดังในหมู่สายสตรีทแวร์ในเมืองนิวยอร์ค ในบางรุ่นเพื่อออกแบบรองเท้าให้ตอบโจทย์สายแฟชั่น โดยรุ่นดังกล่าวของ HOKA จะมีกลยุทธ์ในการวางจำหน่ายแบบลิมิเต็ดเพียงไม่กี่คู่ในประเทศ และลงจำหน่ายแค่เฉพาะ selected door เท่านั้น เช่น Atmos Bangkok เป็นต้น ทำให้เห็นว่าแบรนด์ “HOKA” เองมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและยังมีโอกาสทางการตลาดที่จะขยายฐานลูกค้าไปได้กว้างอีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง กลุ่มสายแฟชั่น กลุ่มสายท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้ง ไฮกิ้ง เทรกกิ้ง หรือกลุ่มคนที่ต้องการการซัพพอร์ตจากการยืน เดิน นานๆในการทำภารกิจ หรือกิจวัตรประจำวันอีกด้วย
ดังนั้น กลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ จึงมุ่งเน้นการขยายโอกาสในการเข้าถึงทั้งกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักวิ่ง และกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นโอกาส ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจการออกกำลังกาย กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบในสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ กลุ่มคนที่ยืน-เดินนานๆ หรือต้องการการซัพพอร์ตจากรองเท้าคอมฟอร์ตชูส์ (Comfort Shoes) ที่มีพื้นรองเท้าที่ หนา นุ่ม แต่มีน้ำหนักเบา ช่วยในการซัพพอร์ตนำหนักตัวได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ซื้อรองเท้า HOKA กลับไปยังประเทศของตัวเอง เนื่องจากกลยุทธ์ของแบรนด์เอง ไม่ได้มุ่งเน้นในการเปิดร้านค้าแบบ stand alone มากนัก จึงไม่มีร้านค้าของ “HOKA” ในหลายๆประเทศ ทำให้ร้าน HOKA Experience Store ทั้ง 2 สาขา เป็นเสมือน tourist destination ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาดูรองเท้ารุ่นใหม่ๆ และซื้อกลับไป และเพื่อเป็นการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงจุดขายที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการรับรู้ทางสื่อดิจิตอลนอกบ้าน หรือ Out-Of-Home Media มากขึ้น รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์ผ่านช่องทาง โซเชียล มีเดีย อย่างต่อเนื่อง โดยตอกย้ำทิศทางนี้ด้วยร้าน HOKA Experience Store 2.0 สาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้า เมกาบางนา ชั้น 2 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา และ ร้าน HOKA Experience Store 2.0 คอนเซ็ปต์สโตร์ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ HOKA ได้ง่ายขึ้น ที่จะเปิดที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พร้อมทั้งพัฒนาช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ช ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันให้มากขึ้น
ส่วนในแง่การสื่อสารแบรนด์ มุ่งเน้นกลยุทธ์สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านทาง global campaign และทำให้เข้าถึงตลาดโลคอล (Global to local) ผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ทั้งจากแบรนด์เอง และการร่วมมือกับพันธมิตรผ่านช่องทางโซเซียลมีเดีย ในขณะที่ยังคงมอบประสบการณ์การลองสินค้าผ่านกิจกรรมต่างๆของ “HOKA” ตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 นี้จะยังคงเห็นแท็คไลน์ของแบรนด์นั่นคือ “FlyHumanFly” ซึ่งมาเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในทุกการสื่อสาร ที่จะเป็นสโลแกนและแคมเปญยาวตลอดปี เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ของ “HOKA” ผ่านทางผู้คน ชุมชน และนักกีฬาของแบรนด์ เนื่องจากคำว่า “HOKA” เป็นภาษาเมารี ที่แปลว่า “บินอยู่เหนือพื้นดิน” อีกทั้งด้วยลักษณะพิเศษของรองเท้า Maximalist ที่หนา แต่น้ำหนักเบา ทำให้รองเท้าวิ่งของ “HOKA” เป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิ่งทั่วโลก โดยมีจุดหมายเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนกล้าที่จะออกมาวิ่ง ออกมาใช้ชีวิต และสนุกสนานไปกับเรื่องราวระหว่างทางที่วิ่งอย่างไร้กังวลเหมือนคนที่มีอิสระ จนทำให้รู้สึกเหมือนบินได้ในขณะวิ่ง
สำหรับภาพรวมของธุรกิจรองเท้ากีฬาในปี 2566 ในประเทศไทย/เอเชีย และทั่วโลก ทางแบรนด์มองเห็นว่า แนวโน้มตลาดปี 2023 นี้ เป็นปีที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น และเต็มไปด้วยสินค้าที่น่าสนใจมากมาย และเนื่องจากการกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติหลังสถานการณ์โควิด -19 ที่ผู้คนสามารถออกมาทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ออกกำลังกาย หรือการไปร่วมการแข่งขันงานวิ่งสายถนนและวิ่งเทรลต่างๆ ดังนั้นการโฟกัสที่กลยุทธ์ออนไลน์อย่างเดียว อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ทางแบรนด์ได้มุ่งเน้นในการสร้างปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มลูกค้าและแบรนด์มากขึ้นผ่านการสร้างคอมมิวนิตี้วิ่งที่แข็งแรงขึ้นของ “HOKA” ที่เรียกว่า HRC (HOKA Running Club) ด้วยโปรแกรมการเทรนและการวิ่งที่มุ่งเน้นในการพัฒนาศักยภาพของนักวิ่ง นำเทรนโดยโค้ชนักกีฬา “HOKA” และยังมีรองเท้าวิ่งรุ่นต่างๆที่ปล่อยออกมาให้นักวิ่งได้ทดลองอีกด้วย
ปัจจุบัน รองเท้าวิ่งเทรลของ “HOKA” ได้ก้าวมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรองเท้าวิ่งสายเทรลของประเทศไทยแล้ว และด้วยเอกลักษณ์ของรองเท้า “HOKA” เองด้วยความเป็น Maximalist / Cushioning หนานุ่มเด้ง เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี ทำให้แบรนด์ “HOKA” เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าหากเราเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น กว้างขึ้น หลากหลายขึ้น และมอบประสบการณ์การลองรองเท้าให้ลูกค้าได้ลองสวมใส่ ประกอบกับกิจกรรมต่างๆที่ช่วยสร้างคอมมิวนิตี้ ชุมชนคนวิ่งออกกำลังที่น่ารัก สนุกสนาน และได้ความรับความรู้จากนักกีฬาระดับอีลิทของ “HOKA” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์นั้น ประกอบกับกิจกรรมทางการตลาดทางออนไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ของสินค้าและกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนั้น ทางแบรนด์มีความเชื่อมั่นมากว่าเราจะสามารถก้าวเข้าสู่ความเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งอันดับหนึ่งในสายถนนได้ไม่ยาก
เป้าหมายของ “HOKA” ในระยะ 3-5ปี สำหรับตลาดรองเท้ากีฬา ยังคงเป็นการมอบประสบการณ์การวิ่งที่ดีที่สุดผ่านผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยตั้งเป้าไว้ในการเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งที่ใช้แผ่นคาร์บอนเพื่อทำความเร็ว เป็นอันดับ 1 ที่นักวิ่งเลือกใช้ และไม่ใช่เพียงรองเท้าวิ่ง แต่ยังรวมไปถึงการเติบโตของเสื้อผ้าสำหรับการออกกำลังกาย และรองเท้าไลฟ์สไตล์ ที่ตอบโจทย์สายแฟชั่นและท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งสัดส่วนของตลาดแบรนด์กีฬาในภาพรวมทั้งหมดจะมีสัดส่วนอยู่ที่ ผู้ชาย 70% และผู้หญิง 30% โดยสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าของ HOKA เองจะมีสัดส่วนเป็นผู้ชาย 60% และผู้หญิง 40% ในขณะที่ภาพรวมของสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าโดยรวมของแบรนด์จะเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45%
ทั้งนี้ “HOKA (โฮก้า)” จึงเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งสาย Performance ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส โดยมีจุดเด่นที่ผสมผสานรองเท้าแนวคูชั่นนิ่ง (Cushioning) ที่รองรับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยมและรองรับการวิ่งที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในปัจจุบันทางแบรนด์มีการพัฒนาสินค้าร่วมกับบรรดานักกีฬาระดับแชมป์โลก และผู้นำแฟชั่น บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัดเอง เล็งเห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ จึงได้นำเข้าแบรนด์ “HOKA (โฮก้า)”มาจัดจำหน่ายในประเทศไทยในปี 2018 และสามารถเปิดช้อปสาขาแรกที่ห้าง CentralwOrld ในปี 2020 โดย HOKA Experience Store สาขา CentralwOrld ยังถือเป็น Stand alone สาขาแรกของโลกอีกด้วย กับการย่างเข้าปีที่ 3 ที่เติบโตในตลาดรองเท้าวิ่งของไทยอย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน “HOKA (โฮก้า)” ประเทศไทย ได้เปิด HOKA Experience Store สาขาที่ 2 ไปเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เรียกว่า HOKA Experience Store 2.0 ที่ศูนย์การค้า เมกาบางนา ชั้น 2 ซึ่งถือเป็นช้อปที่ 3 ของช็อปคอนเซ็ปต์ใหม่ และเป็นสาขาที่ 6 ในเอเชียแปซีฟิก และมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในปี 2566 นี้
ช่องทางการจัดจำหน่าย ออนไลน์ / ออฟไลน์ พร้อมวางจำหน่ายแล้ว
- ร้าน HOKA EXPERIENCE STORE @เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3,
- HOKA EXPERIENCE STORE @เมกาบางนา Level 2,
- ร้าน Rev Runnr ทุกสาขา,
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- และออนไลน์ สโตร์ rev.co.th
สามารถอัพเดตข้อมูลข่าวสารช่อง / กิจกรรมต่างๆของแบรนด์ HOKA ในประเทศไทย อัพเดตสินค้ารุ่นใหม่ๆ และเรื่องราว วิสัยทัศน์ ของแบรนด์ HOKA ผ่านทางนักกีฬาของ HOKA ได้ทาง
- Facebook: https://www.facebook.com/hokaoneonethailand
- INSTAGRAM @hoka_th และ สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ http://hoka.rev.co.th