ถือว่าเริ่มต้นปีได้อย่างแข็งแรง สำหรับ โตโยต้า (Toyota) แบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก 3 ปีซ้อน โดยปี 2022 ทำมียอดจำหน่ายทั้งหมด 10.5 ล้านคัน และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดขายของโตโยต้าก็เติบโตได้กว่า 10% สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีที่แล้ว เป็น 773,271 คัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายในประเทศดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็เริ่มดีขึ้น
โดย ยอดขายในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 53.2% เป็น 155,840 คัน หลังจากที่ลดลงอย่างหนักในปีที่แล้วเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและผลกระทบจากข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 ส่วน ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศปรับตัวขึ้น 3.0% แตะที่ 617,431 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 0.9% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวรถยนต์โตโยต้ารุ่นใหม่ ๆ
ในส่วนของภาคการผลิตรถยนต์ภายในประเทศปรับตัวขึ้น 11.2% แตะ 281,521 คัน ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าพุ่งขึ้น 2% แตะที่ 755,839 คัน แม้วว่าการผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าลดลง 2.7% เหลือ 474,318 คัน เนื่องจากการผลิตในจีนลดลง 14.1% ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ แต่โตโยต้ายังเจอกับปัญหาการส่งมอบรถยนต์ที่ล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดในการผลิตซึ่งเกิดจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการส่งมอบในญี่ปุ่นมีความล่าช้าเป็นพิเศษ เนื่องจากผลิตโมเดลระดับไฮเอนด์ที่มีฟังก์ชันขั้นสูงซึ่งต้องอาศัยชิปจำนวนมาก
ทั้งนี้ โตโยต้าได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2023 ลงสู่ระดับ 9.1 ล้านคัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 9.2 ล้านคัน เนื่องจากผลกระทบของปัญหาขาดแคลนชิป ขณะที่เป้าหมายการผลิตในเดือนมีนาคม โตโยต้าวางเป้าที่จะผลิตรถยนต์ให้ได้ 900,000 คัน