กระแสของสังคมแปรเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย เทรนด์อะไรใหม่ ๆ มักเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของตลาดสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เลือกเลี้ยงสัตว์เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของคนในครอบครัว โดยจากผลสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ซึ่งเปิดเผยเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ระบุชัดเจนว่า 49% ของคนไทยส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูก (Pet Parent) โดยมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยอยู่ที่ 14,200 บาทต่อตัวต่อปี
แต่อย่างไรก็ดีนอกเหนือไปจากสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างน้องหมา และน้องแมวแล้ว ยังมีข้อมูลการสำรวจเกี่ยวกับ “การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นลูกของคนยุคใหม่” จากกลุ่มตัวอย่างคนไทยจำนวน 1,046 คน โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเจเนอเรชั่นวาย ที่มีอายุระหว่าง 24 – 41 ปี ของ CMMU เกี่ยวกับประเภทสัตว์เลี้ยงที่คนไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยง โดยพบว่า นอกจากหมาและแมว คนไทย ยังนิยมเลี้ยงสัตว์ “เอ็กโซติก” (Exotic Pet) หรือสัตว์แปลก ตามมาเป็นอันดับ 3 อีกด้วย
สำหรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก (Exotic Pet) หรือสัตว์แปลกนั้น ปัจจุบันได้มีการแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า มังกรเครา งู หรือเต่า 2.กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบลูกศรพิษ กบโกไลแอท กบแคระแอฟริกัน กบนา กบมะเขือเทศมาดากัสการ์ กบแอฟริกันบูลฟร็อก หรือซาลาแมนเดอร์ 3.กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ด้วง หรือแมงมุมทารันทูล่า 4.กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นกคอกคาเทล นกแก้วมาคอร์ นกเหยี่ยว หรือนกยูง 5.กลุ่มปลาแปลก เช่น ปลาปักเป้าฟาฮากา หรือปลาเทพา และ 6.กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น กระต่าย เฟอเรท แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก แรคคูน แพรีด็อก เมียแคท บุชเบบี้ หรือชูการ์ไกลเดอร์
เทรนด์ในการเลี้ยงสัตว์แปลกนับเป็น “รสนิยม” ส่วนตัว เพราะสัตว์บางประเภทก็ไม่ใช่สัตว์ที่แปลกแบบสุดขั้วเสียงเพียงอย่างเดียว แต่กลับเป็นสัตว์น่ารักตัวเล็กที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มนก เต่า หรือ ปลา เช่นเดียวกับกลุ่มสัตว์ฟันแทะ ทั้ง กระต่าย หนู และกระรอก ซึ่งมีจะมีทั้งสัตว์ที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือ เป็นสัตว์แปลกสวยงามที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แถมบางคนก็มักนิยมเลี้ยงสัตว์เหล่านี้แบบลูกรัก ตั้งชื่อน่ารัก และพาไปไหนมาไหนด้วยอย่างที่เรามักพบเห็นกันอยู่เสมอ
ส่วนสัตว์แปลกที่มักพบเห็นกันอยู่ในโลกโซเชียล โดยในปัจจุบันนี้มีผู้โพสต์ความน่ารักของสัตว์เหล่านี้มาอวดโฉมเรียกยอดไลค์ยอดแชร์กันจำนวนมาก มีตัวอย่างเช่น “สุนัขจิ้งจอก” ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายคนได้นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมคือ หมาจิ้งจอกทะเลทราย หรือ หมาจิ้งจอกเฟนเน็ค มีนิสัยขี้เล่น แต่ใครคิดจะเลือกซื้อต้องคิดดูให้ดีเพราะถือเป็นสัตว์แปลกที่มีราคาสูง เลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์แปลก สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจเลี้ยง ควรตรวจสอบข้อมูลสัตว์ที่จะเลี้ยงให้ดีว่าสามารถเลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ เริ่มจากศึกษาอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งกำหนดชนิดสัตว์ป่าเอาไว้ เป็นบัญชีต่าง ๆ เช่น
บัญชีที่ 1 เป็นสัตว์ชนิดที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ยกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัย และเพาะพันธุ์ เช่น แมวป่าหัวแบน แมวลายหินอ่อน เต่ากระ จระเข้น้ำจืด จระเข้น้ำเค็ม
บัญชีที่ 2 เป็นชนิดที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ อนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เช่น แมวป่า นกยูง เหยี่ยวขาว ลิงแสม
บัญชีที่ 3 เป็นชนิดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วขอความร่วมมือประเทศภาคีให้ช่วยดูแลการนำเข้า เช่น หมาจิ้งจอก งูแมวเซา งูลายสอ ไก่ฟ้าหน้าเขียว เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังต้องดูด้วยว่าสัตว์ที่เราอยากเลี้ยงนั้น ผิดกฎหมายไทยหรือไม่ โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่กำหนดข้อห้ามในการล่า หรือมีไว้ในครอบครอง ข้อมูลเหล่านี้สามารถทำการตรวจเช็คกับหน่วยงานที่ดูแลได้โดยตรง นั่นคือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เมื่อดูข้อมูลชัดเจนแล้วว่า เป็นสัตว์ที่เลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมาย ขั้นตอนต่อไปคือ การสำรวจความพร้อมของตัวเอง และการจัดเตรียมแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และอาหารการกินของสัตว์แปลกนั้น เพื่อให้สามารถเลี้ยงสัตว์ของเราให้มีสุขภาพแข็งแรง เช่นเดียวกับการดูแลสัตว์เหล่านี้ ไม่ให้หลุดออกจากบริเวณเลี้ยง หรือกรง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลของสัตว์เลี้ยงแปลก หรือ Exotic Pet สามารถเข้ามาหาคำตอบต่าง ๆ และชมความน่ารักของสัตว์เอ็กโซติกมากมายภายในงาน “PET Expo Thailand 2023” จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2566 ณ ฮอลล์ 6-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมคำแนะนำดี ๆ จากเหล่ากูรูคนรักสัตว์ รวมทั้งยังเข้ามาช็อปสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากมายได้ภายในงาน เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ประจำปีของคนรักสัตว์ที่ตั้งตารอเพราะมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เพียบ โดยสามารถติดตามข่าวสาร และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.petexpothailand.net หรือ เฟซบุ๊ก Petexpoclub หรือช่องทางทวิตเตอร์ @PetexpoclubTH1 หรือแอดไลน์เพื่อติดตามทุกความเคลื่อนไหวของงานและโปรโมชั่นเด็ด ๆ ก่อนใครได้ที่ @petexpoclub