ก็ยังไม่อิน! ผลสำรวจเผย ‘วัยรุ่นเมกัน’ มีเพียง 4% ที่ใช้งาน ‘VR’ ทุกวัน

Photo : Shutterstock
จะเห็นว่าตั้งแต่โลกเจอกับการระบาดของ COVID-19 บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกหลายรายมองว่า Metaverse นี่แหละคือ เทรนด์แรงในอนาคต โดยเฉพาะกับ Facebook ที่ลงทุนเปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อให้เข้ากับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท อีกทั้งยังมีการออกขาย แว่น VR แต่ผลสำรวจกลุ่มวัยรุ่นอเมริกันพบว่า พวกเขาไม่ได้อยากได้แว่น VR ขนาดนั้น

แม้ว่าเทคโนโลยี VR ในปัจจุบันนี้จะดีขึ้นมาก ขณะที่บริษัทไอทีรายใหญ่ของโลกก็พยายามจะพัฒนาฮาร์ดแวร์ชิ้นนี้ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Meta ลงทุนหลายแสนล้านบาท เพื่อพัฒนา Metaverse และมีแผนจะเปิดตัวชุดหูฟัง VR รุ่นใหม่ในปีนี้ หรือแม้แต่ Apple ที่มีแผนจะเปิดตัวชุดอุปกรณ์ VR ในปีนี้เช่นกัน

เพราะจากการผลสำรวจของ Piper Sandler ที่ทำการสำรวจ วัยรุ่นชาวอเมริกันกว่า 5,600 คน กลับพบว่า วัยรุ่นไม่ได้อินกับอุปกรณ์ VR อย่างที่คิด โดย

  • มีวัยรุ่นเพียง 4% เท่านั้นที่ใช้ VR ทุกวัน
  • มี 14% ใช้ VR ทุกสัปดาห์

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าวัยรุ่นจะไม่สนใจที่จะซื้อชุดหูฟัง VR ที่กำลังจะมาถึง โดยมีจำนวนวัยรุ่นถึง 52% ยังไม่แน่ใจ หรือไม่สนใจเทคโนโลยี VR และ มีเพียง 7% เท่านั้นที่วางแผนจะซื้อชุดหูฟัง VR

จากผลสำรวจจะเห็นว่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Virtual Reality ยังไม่เป็นที่จับตามองของประชาชนทั่วไป แม้ว่าจะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายพันล้านดอลลาร์และชุดหูฟังเองก็เริ่มมีราคาถูกลงแล้วก็ตาม ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นที่มักถูกมองว่าเป็นผู้เริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ กลับยังไม่ให้ความสนใจเทคโนโลยีดังกล่าวเท่าที่ควร

“จากปริมาณการใช้งานที่ยังมีเพียงเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่า VR ยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นวัน และอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญน้อยกว่าสมาร์ทโฟน” นักวิเคราะห์ของ Piper Sandler กล่าว

อาจต้องรอดูว่า อุปกรณ์ VR ที่ของ Apple และ Meta ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีจะดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน เพราะหากย้อนไปช่วงปลายปี 2563 ที่ Meta ได้เปิดตัวแว่น VR รุ่น Quest 2 แม้จะเป็นผู้นำในด้านการขายในตลาด แต่การจัดส่งในปีที่ผ่านมาก็ลดลง

Source