นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลก ก็ได้เริ่มปรับลดคนเนื่องจากการเติบโตไม่ได้พุ่งเหมือนช่วงที่โควิดระบาด โดย Google ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น ซึ่งได้ลดคนมากถึง 12,000 ตำแหน่ง แต่หลังจากที่มีการเปิดเผยถึงรายได้ของ ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท ก็ทำให้ชาว Googler ไม่พอใจอย่างมากที่ผลกระทบกลับมาตกที่พนักงาน
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอ ของ กูเกิล (Google) ได้รับค่าตอบแทนสูงถึง 226 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 7,800 ล้านบาท โดยเขาถือเป็นหนึ่งใน CEO ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในอเมริกา
ขณะที่ผู้บริหารคนอื่น ๆ รวมถึงรองประธานอาวุโสฝ่ายความรู้และข้อมูลของ Google และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจต่างก็มีรายได้ประมาณ 37 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.3 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กูเกิลได้ประกาศอนุมัติการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 70,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งค่าตอบแทนระดับบริหารที่มีมหาศาล และการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 7 หมื่นล้าน ทำให้พนักงานมองว่า บริษัทมีเงินสดมากเกินพอที่จะครอบคลุมการดำเนินงานและการลงทุน แต่บริษัทกลับปลดพนักงานถึง 12,000 ตำแหน่ง แทนที่จะลดค่าตอบแทนของซีอีโอ
“ซื้อหุ้นคืน 7 หมื่นล้านดอลลาร์ แสดงว่า บริษัทเคารพผู้ถือหุ้นภายนอกมากกว่าพนักงานกูเกิลเอง” หนึ่งในข้อความที่มีการโพสต์
แม้ว่าค่าตอบแทนของซันดาร์ พิชัย หากเฉพาะส่วนที่เป็นเงินเดือนจะอยู่ที่ 2 ล้านดอลลาร์, ค่าตอบแทนอื่น ๆ อีก 4.3 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีค่ารักษาความปลอดภัยส่วนตัวราว 6 ล้านดอลลาร์ แต่อีกราว 200 กว่าล้านดอลลาร์มาจากหุ้นของบริษัท ซึ่งเขาจะได้รับทุก ๆ 3 ปี แต่พนักงานส่วนใหญ่ก็ยังมองว่าไม่ยุติธรรม
ซึ่งหลังจากที่รายได้ของซันดาร์ถูกเปิดเผย ก็ได้มีการทำมีมเปรียบเทียบพิชัยกับ ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอ ของ Apple ที่ยอม ลดค่าตอบแทนกว่า 40% ขณะที่ อีริค หยวน (Eric Yuan) ซีอีโอของ Zoom ได้ยอม ลดเงินเดือนลง 98% และจะไม่รับโบนัส หลังจากบริษัทได้ปลดพนักงาน 1,300 ตำแหน่ง
“การประหยัดค่าใช้จ่ายใช้ได้กับทุกคนในองค์กร ยกเว้นกับตำแหน่ง VPS และ CEO ที่ทำงานหนักของเรา” หนึ่งในข้อความมีมที่เกิดขึ้น
ปกติแล้วพนักงานของ Google จะมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 280,000 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าเงินเดือนของพิชัยมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 800 เท่า