เปิดใจผู้จำหน่ายโมเดล ‘ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส’ เพราะ ‘หนัง’ กับ ‘ของเล่น’ คือส่วนผสมที่ขาดกันไม่ได้ กระแสมายอดพุ่ง 100%

หากพูดถึง ของเล่น เชื่อว่าในยุคปัจจุบันไม่ได้มีแค่เด็กที่ซื้อ แต่รวมไปถึง เด็กหนวด ที่หลายคนใช้นิยามถึง ผู้ใหญ่ อย่างเรา ๆ ที่ยังซื้อของเล่นอยู่ เพียงแต่จุดประสงค์อาจแตกต่างไป จากที่เล่นสนุกแบบตอนเด็ก ๆ ก็มาซื้อมาสะสม และหนึ่งในสิ่งที่เกื้อกูลให้ของเล่นยังขายได้ก็เพราะ ภาพยนตร์ และ การ์ตูน นี่แหละที่ทำให้เด็กและนักสะสมหยุดซื้อไม่ได้สักที

จากของเล่นสู่ภาพยนตร์ขายของเล่น

สำหรับภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวพันกับของเล่นแบบสุด ๆ ก็คือ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (Transformers) เพราะจุดเริ่มต้นของทรานส์ฟอร์มเมอร์สนั้นมาจาก ของเล่น จากค่ายดังของญี่ปุ่นอย่าง Takara Tomy ที่หลายคนน่าจะคุ้นหูกัน และได้ค่าย ฮาสโบร (Hasbro) นำสินค้าเข้าไปขายในอเมริกา หลังจากนั้น ทรานส์ฟอร์มเมอร์สก็ได้มีการทำการ์ตูนต่าง ๆ ตามมา เพื่อให้ผู้บริโภคผ่านเรื่องราว (Story Telling) เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการเชื่อมโยง จดจำแบรนด์ จนตลอด 41 ปีที่ผ่านมา ทรานส์ฟอร์มเมอร์สก็มีทั้งเวอร์ชันการ์ตูน และภาพยนตร์แฟรนไชส์ถึง 7 ภาคเข้าไปเเล้ว

หนังเข้าดันยอดโต 100%

สำหรับของเล่นทรานส์ฟอร์มเมอร์สเป็นลิขสิทธิ์จากค่ายฮาสโบร (ยกเว้นในญี่ปุ่นจะหน่ายโดย takara Tomy) สำหรับประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ ได้กลับมาเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นในปี 2001-2015 เนื่องจากช่วงปี 2016-2022 บริษัทฮาสโบรเลือกที่กลับมาทำตลาดเอง

จนมาปี 2023 แมพ แอคทีฟ ได้ลิขสิทธิ์อีกครั้ง โดยจะทำสัญญากัน 5 ปี สามารถจำหน่ายสินค้าได้ทุกชาแนลทั้งในห้างสรรพสินค้าและออนไลน์ โดยมีสินค้าจากค่าย Marvel เช่น Ironman, Spider-Man รวมถึงสินค้าทรานส์ฟอร์มเมอร์ส

ดีพัก โทมาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด กล่าวว่า ภาพยนตร์ถือเป็นส่วนสำคัญมากของการขายของเล่น เพราะเมื่อผู้บริโภคได้เสพเรื่องราวต่าง ๆ ก็จะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการ เริ่มมีการเชื่อมโยง ทำให้พอภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เข้าฉายจะช่วยดันให้ยอดขายของเล่นในช่วงนั้น ๆ เติบโตกว่า 100% โดยกระเเสจะเริ่มมีมาช่วง 1-2 สัปดาห์เข้าฉาย และจะเริ่มซาลงหลังภาพยนตร์ลาจอไปเเล้ว

สำหรับการมาของภาพยนตร์ Transformers : Rise Of The Beats ภาคล่าสุด บริษัทก็ได้ทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น เช่น Meet & Greet กับ หุ่นยนต์ ออพติมัส ไพร์ม มีความสูงกว่า 2.5 เมตร และโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ เช่น ซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท รับฟรี Transformers Griptok มูลค่า 199 บาท 1 ชิ้น เป็นต้น โดยบริษัทคาดว่าจากกระเเสดังกล่าวจะช่วยให้มียอดขายจากสินค้ากลุ่มทรานส์ฟอร์มเมอร์สในช่วงเปิดตัว 3-6 เดือนแรกที่ประมาณ 5-8 ล้านบาท รวมทั้งปีประมาณ 15 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งเเต่ที่แมพ แอคทีฟได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของเล่นฮาสโบร นั้นมีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จาก Marvel ฉายประมาณ 3 เรื่อง แต่บริษัทก็ไม่ได้ทำกิจกรรมทางการตลาด โดย ดีพัก รับว่า ที่ไม่ได้ทำการตลาด เป็นเพราะมองว่ายังไม่ใช่ไฮไลต์ และทรานส์ฟอร์มเมอร์สมีความแมสมากกว่า นอกจากนี้ ผู้ปกครองก็เลือกหาของเล่น เสริมพัฒนาการ ให้บุตรหลาน ซึ่งตรงกับสินค้าทรานส์ฟอร์มเมอร์ส 

“หนังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเกื้อหนุนกัน เวลามีหนังมันจะทำให้เกิดกระเเส ทำให้ยอดขายพุ่งสูงมาก และพอเริ่มมีกระเเส เราก็มาปรุกกระแสให้มีสีสันมากขึ้น”

2023 ตลาดของเล่นไทยสดใส

สำหรับตลาดของเล่นประเทศไทยปี 2019 ถือเป็นปีที่ดีที่สุด โดยมีมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท และมาหดตัวในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ผู้บริโภคไม่ได้ออกจากบ้าน และไม่มีภาพยนตร์เข้าฉาย แต่ในปี 2023 นี้ คาดว่าตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ประมาณ 80-90% เมื่อเทียบกับปี 2019 

สำหรับตลาด แอ็คชั่นฟิกเกอร์ คาดว่ามีสัดส่วนประมาณ 10% ของตลาดของเล่น ซึ่งฮาสโบรถือเป็นผู้นำตลาดมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 50% และในปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโตขึ้น 20-23% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยเห็นสัญญาณบวกจากนักท่องเที่ยว และพฤติกรรมของผู้ปกครองที่เริ่มซื้อของเล่นที่พัฒนาทักษะมากขึ้น เพื่อไม่ให้ลูกอยู่กับหน้าจอ

เด็กหนวดสำคัญ แต่เด็กยังเป็นกลุ่มหลัก

ดีพัก ยอมรับว่า ผู้ใหญ่ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันตลาด โดยปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 20% ของยอดขาย โดยจุดที่น่าสนใจของกลุ่มผู้ใหญ่คือ ซื้อหนัก เฉลี่ยหลัก พันบาท ขณะที่เด็กจะเฉลี่ยหลักร้อยบาท อย่างไรก็ตาม ดีพัก เชื่อว่า เด็กจะยังเป็นกลุ่มสร้างการเติบโตหลัก แม้ว่าปัจจุบันอัตราการเกิดทั่วโลกจะต่ำลงก็ตาม

“แม้อัตราการเกิดจะลดลง แต่เราเชื่อว่าบริษัทยังอยู่ได้ ถ้าเรายังมีสินค้าใหม่ มีคาแรกเตอร์ใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะสุดท้ายแล้ว เด็กก็ยังมีความต้องการซื้อของเล่น”