“กสิกรไทย” จัดหลักสูตรติวเข้มสตาร์ทอัพไทย ผ่านโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 อัดแน่นด้วยองค์ความรู้จาก Silicon Valley พร้อมเครื่องมือต่อยอดธุรกิจ


ในประเทศไทยเราได้เห็นเทรนด์ของ “สตาร์ทอัพ” มาหลายปีแล้ว ซึ่งวงการสตาร์ทอัพในไทยก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มี Ecosystem ที่แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการ ศูนย์บ่มเพาะ และนักลงทุน แต่การที่เหล่าบรรดาสตาร์ทอัพจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องมีผู้สนับสนุนที่คอยชี้แนะแนวทาง เราจึงได้เห็นองค์กรใหญ่ๆ มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับวงการสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง

“ธนาคารกสิกรไทย” เป็นอีกหนึ่งองค์กรใหญ่ที่ส่งเสริมและผลักดันวงการสตาร์ทอัพไทยต่อเนื่องอย่างครบวงจร ทั้งด้านเงินทุน ความเชี่ยวชาญ เครือข่ายธุรกิจ พันธมิตร รวมทั้งการให้องค์ความรู้ผ่านโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 หลักสูตรพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจเพื่อสตาร์ทอัพที่ธนาคารกสิกรไทยร่วมพัฒนาขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา


เดินหน้า 4 ปีต่อเนื่อง ปั้นตัวตึงวงการสตาร์ทอัพ

สำหรับโครงการในปีนี้ ซึ่งทีจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จะเป็นหลักสูตรเข้มข้น ภายใต้แนวคิด “Unleash Your Entrepreneurial Spirit for Sustainable Success” ระยะเวลา 9 สัปดาห์ที่จะทำให้สตาร์ทอัพพัฒนาธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน อัดแน่นด้วยองค์ความรู้การทำสตาร์ทอัพ ในแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่เรื่องทีมงาน การวางรากฐาน ไปจนถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต ทั้งเทคโนโลยีที่กำลังมีบทบาทสำคัญ ได้แก่ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) รวมทั้งแนวคิดการจัดการธุรกิจที่คำนึงถึง ESG สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้จริง พร้อมคว้าโอกาสใหม่ในเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต

นอกจากนี้ สตาร์ทอัพที่เข้ารับการอบรมยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงโอกาสนำเสนอโครงการเพื่อชิงเงินรางวัลพร้อมรับการสนับสนุนเครื่องมือในการทำธุรกิจ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทอีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งองค์ความรู้ และเครื่องมือในการติดปีกธุรกิจไปพร้อมๆ กัน

โดยใน 3 ปีที่ผ่านมามีสตาร์ทอัพไทยเรียนจบหลักสูตรทั้งสิ้นกว่า 100 ทีม และมีหลายทีมที่นำองค์ความรู้ที่ได้ในโครงการไปต่อยอดกับธุรกิจจนประสบความสำเร็จ สำหรับปีนี้ ธนาคารจะมุ่งเน้นส่งเสริมเทคสตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์หรือต้นแบบ (Prototype) ที่พร้อมแล้ว ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน (FinTech) สิ่งแวดล้อม (ESG และ Green Technology) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligenceและ Machine Learning) เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) และโซลูชั่นสำหรับองค์กร (Enterprise Solution) ตอกย้ำเจตนารมณ์ของธนาคารในการพัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้แข็งแกร่งเพื่อร่วมเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างความยั่งยืน

ทั้งนี้มี 2 บริษัทได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ที่เคยเข้าร่วมโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2022 ได้แก่ โปรเจค อีวี (Project EV) และ PetPaw


ทำ Customer Validation หาลูกค้าตัวจริง ปรับแผนธุรกิจให้เป็นไปได้สูง

โปรเจค อีวี (Project EV) เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรเพื่อดัดแปลงรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งมีบริการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ศูนย์กระจายสินค้า หรือใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าของพันธมิตรทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงตลอดระยะเวลาการใช้งานการใช้รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงสามารถช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงและลดภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ให้กับบริษัทขนส่งโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน โปรเจค อีวี ให้บริการดัดแปลงรถกระบะไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เหมาะสำหรับบริษัทขนส่งโลจิสติกส์ที่มีศูนย์กระจายสินค้าระยะการขนส่งไม่เกิน 250 กิโลเมตรต่อวัน สามารถคืนทุนภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 30.8 ตันต่อคันต่อปี ในรถกระบะที่วิ่งประมาณ 90,000 กิโลเมตรต่อปี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะการใช้งานจริงร่วมกับบริษัทขนส่งโลจิสติกส์

ปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้ก่อตั้ง โปรเจค อีวี ได้เล่าว่า “รู้จักโครงการ KATALYST จากการประชาสัมพันธ์ของทีมงาน Beacon VC และจากคำแนะนำของสตาร์ทอัพ ที่เข้าร่วมโครงการปีก่อน จึงสนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจุดเด่นและประโยชน์สำคัญที่ได้รับจากโครงการนี้ คือเนื้อหาหลักสูตรที่มีความกระชับ แนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นขั้นตอน รวมทั้งมีการบ้านให้ลงมือทำ Customer Validation หาลูกค้าตัวจริง ทำให้การปรับปรุงแผนธุรกิจมีความเป็นไปได้สูงขึ้น และที่สำคัญคือ คำแนะนำจาก Mentorทำให้เข้าใจและมีมุมมองทางธุรกิจกว้างขึ้น ตลอดจนการวางแผนการตลาด และการเงินซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการ Scale Business และระดมทุน”

ปริวรรต ยังเสริมอีกว่า โครงการมีประโยชน์มากสำหรับ Early Stage Startup ที่มีไอเดียใหม่ๆ หรือสตาร์ทอัพที่เริ่มต้นธุรกิจมาบ้างแล้วและต้องการปรับหรือ Pivot Business ให้มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการประเมินมูลค่าธุรกิจ (Business Valuation) บนฐานของ Business Traction และรายได้อย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถเข้าสู่การระดมทุนได้ดีขึ้น


จุดประกายสร้าง Prototype Ecosystem ช่วยต่อยอดธุรกิจ

สำหรับ PetPaw เป็นบริษัท Startup ที่มีจุดมุ่งหมายในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้าง Eco-System ให้กับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง และ ผู้ที่รักสัตว์ โดยปัจจุบันทาง PetPaw เองมี 3 ช่องทางหลักๆ ในการเชื่อมโยง Eco-System เข้าด้วยกัน

PetPaw Application – Application ที่รวบรวม Feature ต่างๆ ที่คนรักสัตว์สามารถเข้ามาใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยง / การหาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแต่ละสายพันธุ์ / การพูดคุยปรึกษากับสัตว์แพทย์ผ่านช่องทาง Online รวมถึงการหาซื้อ ศึกษาเปรียบเทียบประกันสำหรับสัตว์เลี้ยง

PetPaw O2O Commerce – ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงผ่านทาง Online และ Offline โดยปัจจุบันช่องทาง Online อยู่ระหว่างการเพิ่มรายการสินค้าให้มีมากกว่า 10,000 รายการ และในส่วนของช่องทาง Offline ทาง PetPaw ได้ทำการเปิดหน้าขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว 2 สาขา คือที่ สาขา ปตท.พระราม4 กล้วยน้ำไท และ สาขาเทพารักษ์ และ ยังมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ ต่างจังหวัด เพิ่มอีก 10-15 สาขา ภายในปี 2566

PetPawVet Service – Software บริหารจัดการธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ครบวงจร ทั้งการทำนัดผ่านระบบ เชื่อมต่อไปยัง Application PetPaw / การสั่งจ่ายยาผ่านระบบ Online จัดส่งไปยังลูกค้า / ระบบจัดซื้อสินค้าเครื่องมือแพทย์ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลสัตว์เข้าใช้งานมากกว่า 1,400 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

แรกเริ่ม PetPaw ได้เขียนแผนธุรกิจ และ เริ่มเข้าร่วมงานการแข่งขัน Pitching ตามงานต่างๆ รวมถึงได้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสตาร์ทอัพของหน่วยงานรัฐเช่น DEPA และได้รับคำแนะนำให้ลองเข้ามาสมัครในโครงการ KATALYST Startup Launchpad และได้รับโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้

ณัฐวัฒน์ กลการวิทย์ Team Lead PetPaw ได้เล่าว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับผู้ที่มีไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจ หรือเริ่มต้นทำธุรกิจไปแล้วแต่ยังหาขั้นตอนวิธีการเข้าสู่ตลาดไม่ได้ เพราะทางโครงการจะช่วยให้คุณกลับมาทบทวนตั้งแต่การสร้างทีมผู้ก่อตั้ง การประเมินขนาดตลาด การเริ่มนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ไปจนถึงการนำเสนอธุรกิจเพื่อหานักลงทุน

เนื้อหาที่ได้จากการเรียนและทำ Workshop สามารถนำมาปรับใช้กับตัวธุรกิจของทาง PetPaw ได้โดยตรง จากที่ทางเราพยามที่จะสร้าง Eco-System ซึ่งจำเป็นจะต้องมี Service ที่หลากหลายครบถ้วนและตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้ Service ของเราเป็น Prototype ที่ไม่สมบูรณ์ แต่หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการและทำ Workshop ทีมงานจึงได้ตัดสินใจ เลือกทำ Service ของเราให้แข็งแรงเติบโตขึ้นทีละส่วน จึงสามารถทำให้เราสามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่องทาง Offline


หลักสูตรส่งตรงจาก Silicon Valley

เนื้อหาของหลักสูตรภายใต้โครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 ได้รับการสนับสนุนผ่านโครงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นำโดยรองศาสตราจารย์ Charles (Chuck) Eesley นอกจากนั้นธนาคารได้จับมือกับพันธมิตรในด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับคำปรึกษา และคำแนะนำโดยเมนเทอร์ชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ ผู้บริหารจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ผู้แทนจาก Amazon Web Services (AWS) รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจาก กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)  และบีคอน วีซี (Beacon VC) ที่จะมาให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อผลักดันให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ดึงศักยภาพของตัวเองและทีมออกมาได้อย่างเต็มที่

ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้การพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพอย่างครบวงจรตั้งแต่พื้นฐานเริ่มที่ไอเดียธุรกิจ การวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า การพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน การสร้างแบรนด์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบของความเป็นผู้ประกอบการ การตลาด การบริหารเงิน การวางแผนธุรกิจ และทักษะการนำเสนอ รวมถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายและต่อยอดการทำธุรกิจกับผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นก่อนๆ และในสัปดาห์สุดท้ายของการอบรม ทีมสตาร์ทอัพที่มีผลงานโดดเด่นจะได้รับคัดเลือกให้นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ โดยผู้ชนะ 3 อันดับแรกจะได้รับทั้งเงินรางวัล และสิทธิประโยชน์จากทางพาร์ทเนอร์ของ KATALYST by KBank เพื่อต่อยอดธุรกิจพร้อมโอกาสการร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในด้านธุรกิจรวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดหลักสูตร คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ และสมัครได้ทางเว็บไซต์ของ KATALYST ที่  https://launchpad.klandingservice.com หรือติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการทางเฟซบุ๊กที่ https://www.facebook.com/KATALYSTbyKBank โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2566 และเริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2566