ไวต้า กรีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรจีนภายใต้มาตรฐานการผลิตยาและการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรป (PIC/sและ GMP) และเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของฮ่องกง บินตรงพบผู้ประกอบการไทยภายในงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong (TBTHK) เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและขยายตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพสมุนไพรจีนระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทย พร้อมแนะนำนวัตกรรมอาหารเสริมเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรจีนใหม่ล่าสุดเพื่อดูแลสุขภาพคนไทยแบบองค์รวม
ไวต้า กรีน (VITA GREEN)ผู้นำตลาดและแบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสมุนไพรจีนอันดับ 1 ในฮ่องกง ได้รับเชิญจากองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong (TBTHK) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มทางธุรกิจและการลงทุนรวมถึงมีการจัดเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มนักธุรกิจไทยได้เข้ามาค้นหาคู่ค้าในการลงทุนร่วมกันกับนักธุรกิจฮ่องกงและถือเป็นโอกาสอันดีของไวต้า กรีนในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสุขภาพของทางบริษัทฯ เข้ามายังประเทศไทย โดยภายในงาน ไวต้า กรีน ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการไทย
นางไอวี่ เชาว์ สุนทรสีมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวต้า กรีน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัดในเครือไวต้า กรีน กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ภายใต้แบรนด์ ไวต้า กรีน (VITA GREEN) อันดับ 1 ของฮ่องกง เปิดเผยว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้น ภาพรวมตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้คนตระหนักและใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย และผู้บริโภคในปัจจุบันเปิดรับผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรเพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับป้องกัน ดูแล และรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้นอีกทั้ง ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในเรื่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยมีอัตราการเติบโตถึง 8-10% คิดเป็นมูลค่าการตลาดรวมสูงถึง 87,000 ล้านบาท
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ ไวต้า กรีน มีความได้เปรียบในเรื่องของการเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่ชูความเป็นสมุนไพรจีนที่มีคุณสมบัติและสรรพคุณเป็นที่รู้จักและนิยมของคนไทย ประกอบด้วย เห็ดหลินจือ ถั่งเช่าสกัด และมีนวัตกรรมการผลิตคุณภาพระดับสูงจากโรงงานผลิตทั้งสามแห่งในฮ่องกงและกวางสี โดยใช้เงินลงทุนในการสร้างโรงงานรวม 500 ล้านเหรียญดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 2,218 ล้านบาท และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practices)และใบรับรอง GMP เหล่านี้ ได้รับการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีโดยกระทรวงสาธารณสุขของฮ่องกง และ SFDA จากประเทศจีนเป็นประจำทุกปีอีกทั้งยังมีศูนย์วิจัยในฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ยุโรป และอเมริกาเหนือ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมนักวิชาการและนักวิจัยชั้นนำของโลก เพื่อร่วมกันค้นคว้า วิจัย และพัฒนาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิผลและปลอดภัยสูงสุด ในขณะเดียวกันก็จำหน่ายในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนไทยที่นิยมเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ผลิตและสกัดจากสมุนไพร
นางไอวี่ เชาว์ สุนทรสีมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวต้า กรีน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ไวต้า กรีน ถือเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มสินค้าอาหารเสริมเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรจีนรูปแบบใหม่จากฮ่องกงสู่ประเทศไทย โดยได้แนะนำสินค้าไฮไลท์ที่ได้รับรางวัลทางธุรกิจและมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องกันในตลาดฮ่องกงและเอเชีย ได้แก่ ไวต้า กรีน เห็ดหลินจือแคปซูล ช่วยดูแลและบำรุงสุขภาพร่างกายโดยองค์รวม, ซุปเปอร์ไวต้า กรีนแคปซูลถั่งเช่าหยินหยาง ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย, ไวต้า กรีนไอซี ช่วยดูแลและบำรุงสายตา และไวต้า กรีน ไวต้าจอยท์ ช่วยบำรุงข้อและกระดูกให้แข็งแรง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรจีนของไวต้า กรีนได้พัฒนาและออกแบบมาเพื่อคนยุคปัจจุบันสามารถเข้าถึงและรับประทานสมุนไพรจีนได้ง่ายและสะดวกและช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนให้คนไทยทั้งวัยผู้สูงอายุหรือแม้แต่วัยทำงาน”