Nvidia บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และปัญญาประดิษฐ์ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี โดยในปีนี้ Nvidia กําลังกลายเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ของบริษัท ด้วยราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื่องจากการมาของกระแส AI
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Nvidia ปิดเพิ่มขึ้น 0.7% ที่ 446.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยเฉพาะปีนี้ หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นถึง 205% ขณะที่ Vijay Rakesh นักวิเคราะห์ของ Mizuho มองว่าราคาหุ้นของ Nvidia จะเติบโตได้อีก 20% มีโอกาสแตะ 530 ดอลลาร์
นอกจากนี้ เขายังคาดว่า Nvidia จะรักษาตําแหน่งผู้นำในชิป AI อย่างน้อยไปจนถึงปี 2027 โดยบริษัทสามารถสร้างรายได้ชิปที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์สำหรับเทคโนโลยี AI ประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2027 โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 75% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาด 90% ขณะที่ปีนี้ คาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 2.5-3 หมื่นล้านดอลลาร์
“ด้วยความต้องการในการเร่งพัฒนา AI เราเห็นโอกาสที่สําคัญสําหรับซัพพลายเออร์ฮาร์ดแวร์ที่ขับเคลื่อนความต้องการในการประมวลผลที่สูงขึ้นสําหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่”
ในส่วนของคู่แข่งอย่าง AMD นั้นมีจุดเด่นด้านการพัฒนา GPU [หน่วยประมวลผลกราฟิก] ที่มีราคาต่ำกว่า แต่ Vijay Rakesh มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ AMD จะแย่งชิงส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นมากในระยะสั้น เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีของ NVDA และตำแหน่งที่หนึ่งในตลาด
รายได้ของ Nvidia ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ของ Wall Street อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ที่เกิดจากธุรกิจ AI โดยเฉพาะว่ามีมีสัดส่วนเท่าไหร่ของรายได้รวม และด้วยผลประกอบการที่เหนือคาด ทำให้ความมั่งคั่งของ Jensen Huang CEO ของ Nvidia จึงเพิ่มขึ้นเกือบ สองเท่า ในปีนี้ ปัจจุบัน Jensen Huang เป็นบุคคลที่รวยที่สุดอันดับที่ 32 ของโลกด้วยมูลค่าสุทธิ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 189% ในปีนี้ โดยเขาเป็นเจ้าของหุ้น Nvidia 86.9 ล้านหุ้น หรือประมาณ 3.5%
ทั้งนี้ Rakesh ไม่ใช่นักวิเคราะห์เพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นในบริษัท Nvidia แต่ในเดือนมิถุนายน Morgan Stanley ได้มองว่า Nvidia ถือเป็น ตัวเลือกอันดับต้น ๆ จากความต้องการชิป AI