ธนาคารกลางจีนได้ตุนทองคำเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 แล้ว โดยเป้าหมายคือลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อมูลในปัจจุบันนั้นจีนมีทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีการซื้ออย่างต่อเนื่องได้
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า ธนาคารกลางของประเทศจีน (PBoC) ได้ซื้อทองคำเพิ่มมากถึง 740,000 ทรอยออนซ์ ซึ่งเทียบได้กับน้ำหนักราวๆ 23 ตัน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะทำให้ธนาคารกลางของจีนสะสมทองคำเข้าคลังมากถึง 9 เดือนติดต่อกันแล้ว
ล่าสุดนั้นจะทำให้ธนาคารกลางจีนมีทองคำเก็บสะสมทั้งสิ้นราวๆ 2,137 ตัน หลังจากที่ได้ทยอยซื้อทองคำเพิ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปี 2022 ที่ผ่านมา โดยซื้อสุทธิทั้งสิ้นราวๆ 188 ตัน
PBoC ถือเป็นธนาคารกลางรายใหญ่ที่เป็นผู้นำในการซื้อทองคำเก็บเป็นทุนสำรอง เนื่องจากนโยบายของธนาคารกลางจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้ใช้นโยบายลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (De-Dollarization) เนื่องจากค่าเงินของสหรัฐได้แข็งค่าจากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลทำให้สกุลเงินหลายประเทศอ่อนค่าลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ด้วยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจากเหตุผลการบุกยูเครน หรือแม้แต่กรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ก็ทำให้หลายประเทศเริ่มหาทางออกจากการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่สื่อจีนอย่าง Global Times ได้สัมภาษณ์ Yang Delong นักเศรษฐศาสตร์จาก First Seafront Fund Management ชี้ว่าการเก็บทองคำเพิ่มเติมของ PBoC จะเป็นอีกรากฐานหนึ่งของความก้าวหน้าที่สกุลเงินหยวนของจีนจะได้รับการยอมรับจากนานาชาติมากขึ้น
สื่อจีนรายดังกล่าวยังได้สัมภาษณ์ Ming Ming นักเศรษฐศาสตร์ของ CITIC Securities ว่าจีนมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับธนาคารกลางของประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีสัดส่วนสูงกว่านั้น และคาดว่าจีนจะซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง
โดยธนาคารกลางทั่วโลกได้พยายามที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นไม่ซื้อเงินดอลลาร์เก็บเป็นทุนสำรอง แต่พยายามหาสกุลเงินอื่นๆ ทดแทน หรือแม้แต่การเก็บสะสมทองคำ ซึ่งนโยบายดังกล่าวของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางจีนเองยังส่งผลทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา