ดูเหมือนว่าวิกฤตเรื่องอัตราการเกิดที่ต่ำของจีนจะหนักขึ้นทุกที เพราะแม้ว่าจะยกเลิกมาตรการ ลูกคนเดียวก็แล้ว ให้เงินสนับสนุนเด็กเกิดใหม่ก็แล้ว จนตอนนี้มาถึงการให้เงินสนับสนุนคู่บ่าวสาวอายุไม่เกิน 25 ปี เนื่องจากอัตราการแต่งงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
มณฑลฉางซานในจังหวัดเจ้อเจียง ได้ประกาศว่า ทางมณฑลจะ ให้เงินสนับสนุนคู่บ่าวสาวที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จำนวน 1,000 หยวน (ราว 5,000 บาท) ทั้งนี้ ตามกฎหมายของประเทศจีน ผู้ชายต้องมีอายุ 22 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ถึงจะสามารถแต่งงานตามกฎหมาย
นโยบายดังกล่าวคาดว่าออกมาเพื่อกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวแต่งงานกันมากขึ้น เนื่องจากในปี 2022 ที่ผ่านมา การจดทะเบียนสมรสในประเทศจีนลดลงเหลือ 6.83 ล้านครั้ง นับเป็นการ ลดลงติดต่อกัน 9 ปี และตัวเลขดังกล่าวก็อยู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970 และไม่ใช่แค่ปริมาณที่น้อยลง แต่อายุของบ่าวสาวก็สูงขึ้นอีกด้วย
ไม่ใช่แค่กับมณฑลฉางซาน แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมืองเช่าซิง ของเจ้อเจียง ก็มีนโยบายที่กระตุ้นอัตราการเกิด เช่น การให้เงินสนับสนุน การให้สิทธิพิเศษวันหยุดเพื่อเลี้ยงดูบุตร รวมถึงการเสนอเงินมูลค่า 1,000 หยวนให้กับคู่บ่าวสาว โดยไม่จำกัดอายุ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีมาตรการออกมากระตุ้นมากแค่ไหน แต่นักประชากรศาสตร์ยอมรับว่า ผลกระทบในทันทีนั้นไม่น่าเป็นไปได้ และจีนควรยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับบรรทัดฐานใหม่ โดยมีการคาดการณ์ว่า อัตราการเกิดของเด็กในประเทศจีนอาจลดลง ต่ำกว่า 8 ล้านคนในปี 2023 นี้
โดยในปีที่แล้ว ประชากรของจีนหดตัวลง 850,000 เหลือ 1.4118 พันล้าน นับเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1961 โดยปีที่แล้วอัตราการเกิดในประเทศจีนมีเพียง 9.56 ล้านคน ซึ่งลดลง 9.98% จาก 10.62 ล้านคนในปี 2021
วิกฤตด้านประชากรศาสตร์จากจํานวนการเกิดที่ลดลงและประชากรสูงอายุอย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ร้ายแรงที่สุดสําหรับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน โดยมีผลกระทบกระเพื่อมรวมถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ลดลงและตลาดผู้บริโภคที่อ่อนแอ ตลอดจนกลุ่มแรงงานที่หดตัว และความท้าทายต่อกองทุนบํานาญของรัฐ