หลายคนน่าจะรู้ว่า จีน และ ไต้หวัน เป็น 2 ประเทศที่มีประเด็นความขัดแย้งกันอยู่ เนื่องจากจีนอ้างความเป็นเจ้าของเกาะไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่น เองก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงสถานการณ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน เพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุจีน
จนกระทั่งการมาของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) นายกรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่น ที่กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า “หากจีนโจมตีไต้หวัน จนคุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น ก็อาจกระตุ้นให้ประเทศของเธอมีการตอบสนองทางทหาร” และความเห็นนี้เองที่เป็นชนวนสำคัญของความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่น
ล่าสุด แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่หลายแห่งของจีนได้ หยุดขายแพ็กเกจทัวร์ไปญี่ปุ่น หลังจากที่ รัฐบาลจีนเรียกร้องให้พลเมืองไม่เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้โรงแรมบางแห่งในญี่ปุ่นเริ่มมีการยกเลิกการจองจากนักท่องเที่ยวจีน
ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผลกระทบดังกล่าวได้ลุกลามไปถึง อุตสาหกรรมบันเทิง โดยมีการเลื่อนการฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นในจีน เช่น Crayon Shin-chan the Movie: Super Hot! Scorching Kasukabe Dancers หรือ Cells at Work
นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายนปีนี้ ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 31.65 ล้านคน โดยประมาณ 7.49 ล้านคนมาจากจีน เพิ่มขึ้น 42.7% จากปีก่อน และนับเป็นประเทศที่มีการเดินทางมาญี่ปุ่นมากที่สุด โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน การบริโภคของนักท่องเที่ยวชาวจีนในญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 590,000 ล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางหัวหน้าสมาพันธ์ธุรกิจ 3 แห่งในญี่ปุ่นได้พบ มาซาอากิ คานาอิ (Masaaki Kanai) อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียกร้องให้มีการเจรจากับจีนเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทางการทูต
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า มาซาอากิ คานาอิ จะเดินทางไปเจรจากับ หลิวจินซง (Liu Jinsong) รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนในสัปดาห์นี้ แต่ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (18 พฤศจิกายน) กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า หลี่เฉียงไม่มีแผนพบทาคาอิจิในการประชุม G20 ที่ประเทศแอฟริกาใต้



