โฆษณาด้วย “ภาพ” ดีกว่าคำพูด

ฉกาจ ชลายุทธ Social Media Manager, Thoth Media หรือ twitter@Molek เป็นคนทำงานในวงการดิจิตอลคนหนึ่งที่ติดตามและเล่น Instagram ทั้งความชื่นชอบโดยส่วนตัวและเพื่อติดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เขาระบุว่าพฤติกรรมของคนใช้ iPhone ก็มักเป็นคนที่เล่นแอพพลิเคชั่นเป็นประจำอยู่แล้ว และถึงแม้ว่า iPhone จะมีแอพพลิเคชั่นช่วยถ่ายภาพมากมาย แต่ความง่ายของ Instagram เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้คนนิยมเล่นกันมาก 

จากความฮิตกลายเป็นผลพลอยได้ก็คือมีการพัฒนาโปรแกรมอื่นๆ เช่น Instadesk เพื่อทำให้เล่น Instagram ด้วยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ โอกาสที่เปิดกว้างเช่นนี้ สำหรับคนทำโฆษณาบนดิจิตอลมองว่าการทำงานของ Instagram เหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาในสินค้าบางประเภทเช่นกัน เพราะ “ภาพถ่าย” ช่วยให้มนุษย์สื่อสารกันได้ข้ามขีดจำกัดเรื่องภาษา

“สินค้าที่เหมาะที่จะเอา Instagram มาใช้ก็น่าจะเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์หรือประติมากรรม งานแฮนด์เมด อย่าง เสื้อผ้า กระเป๋า หรือจะเป็นของที่จับต้องได้อย่างอาหาร งานอีเวนต์ แต่โดยรวมแล้วภาพที่ถ่ายออกมาต้องให้ความรู้สึกเหมือนงานศิลปะ”

อย่างไรก็ตาม ฉกาจมองว่า Instagram อาจจะยังไม่ใช่แคมเปญการตลาดหลัก เป็นแค่ส่วนเสริม เป็นเครื่องมือที่ 3 รองจากเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เพื่อทำให้แคมเปญสมบูรณ์ขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายแค่นิดเดียว  

ฉกาจยกตัวอย่างทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอกที่ใช้ Instagram 2-3 เคส เช่น งานมิวสิกวิดีโอของวงดนตรี The Vaccine จากเกาะอังกฤษ ที่ให้แฟนเพลงส่งรูปที่ถ่ายด้วย Instagram เข้ามาแล้วใส่ #vaccinevideo ซึ่งเขาให้ความสนใจแคมเปญนี้เนื่องจากการมีส่วนร่วมของผู้ฟัง ส่วนประเทศไทย @inattt แบรนด์ที่จำหน่ายสินค้า กลองคาฮอร์น ก็สามารถส่งออกไปขายที่ต่างประเทศได้ก็เพราะใช้ภาพโชว์สินค้าผ่าน Instagram จนไปสะดุดตาศิลปินในเมืองนอก ตอกย้ำว่าผู้ผลิตสินค้าแฮนด์เมดสามารถแจ้งเกิดได้ด้วยรูปภาพ ทั้งๆ ที่คุณสมบัติสินค้าขายเสียง

ในฐานะของคนที่คร่ำหวอดในวงการออนไลน์ ฉกาจยังมองถึงอนาคตของ Instagram ว่า ด้วยอายุเพียงปีเดียว กราฟการเติบโตของแอพพลิเคชั่นนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งมากมายที่เห็นความสำเร็จของแอพพลิเคชั่นที่นอกจากแต่งภาพแล้วยังเป็นสังคมออนไลน์ในตัวเอง แต่ด้วยฐานผู้ใช้มากขนาดนี้ เขาเชื่อว่า Instagram จะยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

“ตอนนี้เฟซบุ๊กก็กำลังทำเรื่องการถ่ายรูป แต่ผมว่าไม่รอดหรอก ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เราจะแชร์รูปบนเฟซบุ๊กมากที่สุด แต่ถ้าหากว่าแอพพลิเคชั่นอื่นที่มันดีอยู่แล้ว ใช้งานได้สะดวกกว่า คนจะถ่ายรูปบนเฟซบุ๊กทำไม ในเมื่อให้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ก็แชร์ไปที่เฟซบุ๊กได้อยู่แล้ว” การที่ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดหันมาให้ความสนใจการถ่ายรูปเหมือนที่ Instagram ทำ ก็น่าจะบ่งบอกได้ชัดว่า อินไซท์ของคนเรื่องการถ่ายรูปเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ   

 

ใช้แอพฯ ยังไงให้เวิร์ค 

เวลาที่แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ หรือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คกิ้งสุด Cool โด่งดังขึ้นมานักการตลาดหลายคนคงกำลังจดๆ จ้องๆ ว่าจะเอาแบรนด์เข้ามาสร้างควงามผูกพันกับผู้บริโภคอย่างไร เวลาไหนดี มาเร็วไปก็กลัวละลายเงินเปล่าๆ มาช้าไปก็กลัวตกขบวน ฉกาจ ชลายุทธ บอกเคล็ดลับเอาไว้ว่า  “ตอนที่แอพฯ เกิดใหม่ มีคนเล่นสัก 1-2 พันคน สิ่งที่นักการตลาดต้องทำคือเข้าไปทดลองเล่นดูก่อนว่าจะมีช่องทางที่จะเอาแบรนด์เข้าไปได้หรือไม่ โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะใส่แบรนด์ลงไป เพราะถ้าใส่เรื่องการตลาดเข้าไปตอนนี้ผู้บริโภคจะหนีออกจากโซเชี่ยลมีเดียนั้นๆ ซะก่อน สเต็ปต่อมาเมื่อมีคนเล่นจนเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้เล่นประมาณ 1 แสนขึ้นไป ตอนนี้แบรนด์ก็ต้องลงไปจับอย่างเต็มที่ แล้วทำต่อเนื่องสักพัก เพื่อให้คนเข้าไปเล่น หลังกจากนั้นก็ดูผลลัพธ์ และพิจารณาว่าแอพฯ นี้จะเฟดตัวลง หรือว่าจะรุ่งต่อ”   

ส่วนเรื่องการมอร์นิเตอร์ว่าจะเข้าสู่แอพฯ หรือโซเชี่ยลฯ เมื่อไหร่ เป็นเรื่องที่เอเยนซี่กับ Digital Manager ของแบรนด์ต้องตัดสินใจ โดยพิจารณจากการเติบโต เช่น Google+ ที่เปิดตัวด้วยจำนวนผู้ใช้ 20 ล้านแอคเคานต์ด้วยความรวดเร็ว แต่ตอนนี้ก็นิ่งผิดปกติ และตัวเลขหนึ่งที่น่าสนใจคือ ตัวเลขการดาวน์โหลดวันแรกน่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าแอพฯ นั้นน่าสนใจหรือไม่ 

 

Instagram= Tweet ด้วยภาพ  

จิณณ์ เผ่าประไพ กรรมการผู้จัดการ, CJ WORK แสดงความเห็นว่า นักการตลาดอาจจะยังใช้ประโยชน์ของ Instagram ได้ไม่มากนัก เพราะการใช้ Instagram ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร อีกทั้ง Facebook ยังเป็น Social Media ที่แข็งแรงและได้รับความนิยมในระดับ Mass จนทำให้การถ่ายภาพผ่าน Instagram เป็นเพียงกิจกรรมส่วนเดียวในชีวิตของผู้บริโภคเท่านั้น ขณะที่ลักษณะการใช้ Instagram เองก็มีส่วนคล้าย Twitter เพียงแต่เปลี่ยนเป็นภาพ นั่นคือ ผู้เล่นจะ Follow คนดัง, ดารา หรือคนที่มีคอนเทนท์ดีๆ แต่คนส่วนใหญ่ทำหน้าหน้าตามดู 

“ท้ายที่สุดแล้ว Instagram น่าจะเหมือน Twitter ซึ่งจุดด้อยมันพูดได้น้อย Facebook ทำอะไรได้เยอะกว่ามาก นักการตลาดเลยใช้ประโยชน์ได้ Instagram อาจจะคล้าย QR Code เหมือนจะเกิดแต่ก็ไม่เกิด แล้วโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คแชร์รูปก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ่สมัยก่อนเราก็มี Flickr มาแล้ว แต่ก็ไม่แพร่หลาย ดังนั้นการใช้ Instagram อาจจะต้องรอสักพัก ในอนาคตอาจจะใช้ได้”    

 

Instagrm ฮิต เพราะคนอยากเล่า

วฤตดา วรอาคม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม (ซีไอโอ) แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) พูดถึง Instagram ว่า มันเริ่มจากคนถ่ายรูป แต่คนส่วนใหญ่ไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ ส่วนมากอยากเป็น Story Telling รักการเล่าเรื่องมากกว่า แล้วก็ไม่มีแอพพลิเคชั่นหรือเครื่องมืออื่นให้เล่าเรื่องเท่าใดนัก นอกเหนือจาก Youtube ที่ต้องใช้ความพยายามสูง อีกทั้งพฤติกรรมคนไทยก็ชอบถ่ายรูปจนโทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่สำคัญ สำหรับประเทศไทย ธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่นนี้ น่าจะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์เล็กๆ ที่มองหาเวทีแจ้งเกิด และพร้อมที่กล้าลองของใหม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภค ว่ามีความเข้าใจกับแอพพลิเคชั่นนี้แค่ไหน และถ้าหากมองตัวอย่างจากต่างประเทศแล้ว การใช้ Instagram อาจทำในรูปแบบการจัดอีเว้นท์ แล้วให้ผู้บริโภคถ่ายรูปส่งเข้ามา       

 

ภาพวิเคราะห์คน

ทีมงานพัฒนา MOLOME แอพพลิเคชั่นว่าที่คู่แข่งของ Instagram มองว่าการใช้แอพฯ ถ่ายภาพสำหรับการตลาด น่าจะเป็นโอกาสที่ดี เพราะรูปสามารถวิเคราะห์ไลฟ์สตล์ และเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ รวมทั้งการสื่อสารจากแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภคถ้าหากว่าผ่านภาพก็น่าจะเข้าถึงอารมณ์ของคนได้มากกว่าข้อความ เพราะเทรนด์ของโลกดิจิตอล คือการแชร์ Rich Media โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดกับพฤติกรรมคนไทย ที่ชอบถ่าย ชอบดูภาพอยู่แล้วก็น่าจะเหมาะสม และสำหรับ MOLOME ยังมีจุดเด่นที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในตลาดในวงกว้าง เพราะมีแพลตฟอร์มที่เล่นในตลาด Mass ด้วย 

 

ใช้สร้าง Personal Branding    

นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล Creative Director/Project Manager บริษัท BrandBaker จำกัด และติดตามเกี่ยวกับ Digital Trend  กล่าวถึงสื่อ Interactive ยิ่งใหญ่อย่าง  SXSW® 2011 (The South by Southwest) ได้มีการพูดคุยเรื่อง Mobile Platforms และมีประเด็นเกี่ยวเนื่องถึง The most popular apps on iPhone มีการทำ Poll Feedback จากผู้ร่วมงาน เพื่อหา Best Mobile Application อันดับ 1 ของผลโหวตจากผู้คนแวดวง Digital Media/Interactive เสียงส่วนใหญ่ยกให้ Instagram เป็นอันดับ 1 คะแนนเท่ากับ Food Spoting ที่ได้คะแนน เป็น Positive Feedback สูงถึง 65% ตัวเลขนี้บอกว่า ในบรรดา Photo Sharing และ Application ที่เป็น Social Network ชื่อดังบน iPhone คนในอุตสาหกรรม Digital ยกให้ Instagram ถือเป็น Application ที่โดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งในปีนี้ 

นักการตลาดก็เช่นกัน เล็งเห็นถึงความสามารถของ Application และจำนวนผู้ใช้ที่มากกว่า 15 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้ใช้ iPhone, iPad, iPod Touch นั่นทำให้กลุ่มผู้ใช้ Instagram มี Value มากขึ้น เครื่องมือชิ้นนี้จึงกลายเป็นส่วนเสริมของการสื่อสารผ่าน Social Media ร่วมกับช่องทางอื่นๆ ประสานกันให้เกิด Integrated – Coherency ได้

มีหลายแบรนด์นำ Instagram มาใช้เป็นการเพิ่มช่องทางสื่อสารและสร้าง Brand Contact โดยโพสต์ภาพสินค้า กิจกรรมต่างๆ ผ่าน Official Account ของแบรนด์ นอกเหนือจากช่องทางหลักอย่าง Facebook และ Twitter ซึ่งช่วยให้แฟนๆ สามารถอัพเดตภาพสวยๆ ในมุมมองแปลกๆ ที่อาจจะไม่ได้เห็นบนช่องทางอื่นๆ ด้วยความสามารถปรับแต่งภาพ Filter ของ Application ส่วนหนึ่งก็เริ่มมีการหยิบเครื่องมือชนิดนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Campaign ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยังถูกหยิบมาใช้ไม่มากนัก อาจด้วยเหตุผลที่ Reach กลุ่มเป้าหมายยังไม่ครอบคลุมมากพอ (Large Coverage) ที่จะคุ้มค่าในการใช้เครื่องมือชนิดนี้

 

MV สร้างจาก Instagram ตัวแรกของโลก

Sony Music Entertainment ทำกิจกรรมร่วมสนุกกับแฟนเพลงของวง The Vaccines เพื่อให้มีส่วนร่วมกับ MV ตัวใหม่ “Wetsuit” โดยจัดกิจกรรม Crowdsoucing ให้ทุกคนสามารถส่งภาพมาร่วมเป็นภาพประกอบใน MV เพลงนี้ แต่มีข้อแม้โดยต้องถ่ายรูปผ่าน Application Instagram เท่านั้นโดยโพสต์ภาพพร้อมติด Hastag #vaccinesvideo ภาพที่โพสต์ไว้จะถูกอัพเดตขึ้นไปยังvaccinesvideo.com ทันที และภาพที่ถูกเลือกก็มาเป็นส่วนหนึ่งของ MV “Wetsuit” จริงhttp://youtu.be/5tr5ptnUoDE

นอกจากการนำความสามารถของ Istagram ไปประยุกต์สร้าง DigitalCampaign ผ่าน API ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถดึงความสามารถไปใช้ได้ ทำให้นักสร้างสรรค์สื่อดิจิตอลสามารถคิดสร้างสรรค์ Campaign ได้หลากหลาย แล้ว การใช้ช่องทาง Istagram สื่อสารแบรนด์ยังเป็นช่องทางที่ขาดไม่ได้แบรนด์ที่ลงมาใช้ช่องทางนี้เป็นกลุ่มแรก (Early Adopter Brand) ณ ปัจจุบันนี้ กลายเป็น Own Media ที่มี Value สูง อย่าง Jamie Oliver มี Follower มากกว่า 140,000 คน และ Starbucks ที่มี Followers 175,499 คน และยังเป็นประโยชน์ในการใช้เป็น Personal Branding Tools ที่ดีในการใช้ดารา เซเลบริตี้ ที่ฮิตมากในกลุ่มดารานักร้องญี่ปุ่น ดารานักร้องฮอลลีวู้ด รวมถึงดาราไทยก็เริ่มมีใช้เพิ่มสูงขึ้น ดาราไทยหลายคนมียอด Follower สูงกว่า 50,000 คน ซึ่งน่าสนใจ

ในความเห็นส่วนตัวของนิวัฒน์บอกว่า การทำการตลาดผ่าน Instagram จะคุ้มค่ามากขึ้นหากมีฐานผู้ใช้สูงขึ้น ซึ่งแผนในปี 2012 จากคำพูดของ CEO Kevin Systrom จะมีการสร้างการพัฒนา Instagram บน Android ซึ่งคาดการณ์จะสามารถขยายฐานผู้ใช้เป็น 50 ล้านคนได้ ซึ่งถึงจุดนั้นคงเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจไม่น้อย

 

ฮิตในหมู่ดารา แมสต้องรอก่อน

ทั้งความชื่นชอบส่วนตัว และหน้าที่การงาน ต้องอัพเดตแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ใช้บนสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ โปรดปราน หมื่นสุขแสง Unit Head Internet Application & Content บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือ ดีแทค พบว่า Instagram เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่น สำหรับแต่งภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ไอโฟน ด้วยจุดเด่นในเรื่องของโปรแกรมการแต่งภาพ มีฟิลเตอร์ และเอฟเฟกต์ต่างให้เลือกได้หลากหลาย จะแต่งภาพสไตล์กล้องโลโม หรือย้อมสีเพื่อให้ภาพที่ถ่ายจากไอโฟนออกมาสวยงามแปลกตา มีความพิเศษกว่าภาพถ่ายปกติ และที่สำคัญยังกดแชร์ผ่านเครือข่ายโซเชี่ยลมีเดีย เฟซบุ๊ก ทวิเตอร์ ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามและคอมเมนต์ได้ทันที

ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ Instagram จึงเป็นที่นิยมในหมู่ดารา นักร้อง เซเลบริตี้ คนดัง ใช้อัพเดตภาพถ่ายของตัวเองในอริยาบถต่างๆ ทั้งไปทำกิจกรรม ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้แฟนคลับได้คอยติดตามผลงาน และใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ลักษณะเดียวกับทวิตเตอร์ ต่างกันที่ Instagram สื่อสารด้วยภาพ จึงเป็นที่นิยมมากๆ ในหมู่ดาราดัง และกลุ่ม Trend Setter เพราะง่ายต่อการสร้างการรับรู้ 

“ส่วนคนส่วนใหญ่ชอบดาราอยู่แล้ว พอได้ดูรูป ที่ดาราเขาอัพขึ้นว่าเขาทำอะไรที่ไหน ก็จะรู้สึกว่าได้ใกล้ชิด ได้รู้ข้อมูลก่อนใครแม้นิดนึงก็ยังดี ก็จะเป็นความภูมิใจเล็กๆ และคนส่วนใหญ่มักจะชอบดูรูปภาพอยู่แล้ว เลยทำให้แอพพลิเคชั่นตัวนี้เป็นที่นิยมมากๆ ในแวดวงบันเทิง”  โปรดปรานสะท้อน และส่วนตัวของเธอก็มักตามดู Instagram ของดารา อย่างพลอย จริยะเวช, น้องมาร์กี้ บอย-ปกรณ์, มาริโอ้-กุ๊บกิ๊บ, โดม ปกรณ์ลัม, คริส หอวัง เป็นประจำ

แต่การนำไปใช้ในทางการตลาดแล้ว เธอมองว่า ด้วยภาพที่ดูสวยงามแปลกตา สามารถใช้ในการสร้าง Identity ให้กับแบรนด์ได้ เช่น ธุรกิจหนังสือ แฟชั่น หรือหากจะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกิจกรรม เป็นแค่ส่วนตัวไม่ใช่ส่วนหลัก เนื่องจากแอพพลิเคชั่นนี้ก็ยังมีข้อจำกัด ใช้ได้เฉพาะเครื่องไอโฟนเท่านั้น การใช้งานจึงยังไม่แพร่จำกัดเฉพาะกลุ่มมีกำลังซื้อ หากจะให้แพร่หลายขึ้นคงต้องรอให้เครื่องไอโฟนลดลงราคาลงมา หรือพัฒนาให้ Instagramใช้บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้เมื่อไหร่ ความนิยมจะแพร่หลายสู่ระดับเมนสตรีม

 

สมาร์ทโฟนจุดเปลี่ยน

โปรดปราน ตั้งข้อสังเกต พฤติกรรมการ “แชร์ภาพ”ของคนส่วนใหญ่ เกิดจากมาจาก “สมาร์ทโฟน” เป็นตัวที่ขับเคลื่อนสำคัญ โดยมี Social Media เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือทำให้เกิดการ “แชะและแชร์” ให้เพื่อนฝูงและคนรู้จักได้คอมเมนต์ หรือติดตาม

ในขณะที่กล้องดิจิตอล แม้จะเป็นคลื่นลูกใหม่มาแทนกล้องใช้ฟิล์ม ทำให้คนนิยมถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก แต่จากผลสำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่ 70-80% พบว่า เมื่อถ่ายภาพแล้วมักจะเก็บไว้ในกล้องไม่มีการแชร์ภาพ จนเมื่อหันเข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟน และโซเชี่ยลมีเดียการส่งต่อภาพทำได้สะดวก การแชร์ภาพจึงเป็นที่นิยม

แบรนด์ใช้ตัวตนด้วยภาพ

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ TARAD.COM เว็บอีคอมเมิร์ซ มองว่า ทุกวันนี้อัตราผู้ใช้ Instagram เพิ่มขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะในหมู่ดาราที่นิยมใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับแฟนคลับและผู้สนใจเรื่องดารา 

กุญแจความสำเร็จของInstagram ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เวลานี้ 1.ตัวโปรแกรมการให้แต่งภาพด้วยฟิลเตอร์ทำให้ภาพสวยงามขึ้น และการใช้งานง่ายและหลากหลาย 2.เชื่อมกับโซเชี่ยลมีเดีย อย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ทำให้เกิดการแชร์ภาพ ซึ่งมีฐานผู้ใช้จำนวนมาก และทำให้สามารถโต้ตอบได้ทันที 3.คนไทยชอบแสดงแสดงตัวตนผ่านรูปภาพของตัวเอง เมื่อ Instagram ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ด้วยฟิลเตอร์แต่งภาพที่ให้ความรู้สึกสวยงามแปลกตา จึงเกิดความนิยมขึ้นมาในหมู่ดารา นักร้อง นักแสดง 

ส่วนการนำ Instagram  มาใช้การตลาด ในต่างประเทศมีผู้นิยมใช้กันแล้ว ใช้สร้างกระแสผ่าน Tag ให้คนติดตาม ส่วนในไทยการนำมาใช้ทางการตลาดยังมีไม่มาก ภาวุธเสนอว่า แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้ Instagram แสดงออกถึงตัวตนของแบรนด์ และใช้สร้างกระแสผ่านกิจกรรมออนไลน์ เช่น ร้านอาหาร จัดกิจกรรมให้ลูกค้าถ่ายภาพอาหาร ผ่านโปรแกรม Instagram และนำมารับส่วนลดไป โดยมักจะใช้ร่วมกับเครื่องมือการตลาดอื่นๆ 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเขามองว่า การใช้ Instagram จึงแม้จะไม่เติบโตเต็มที่ในระดับที่จะ Kick off  ในระดับแมส เนื่องจากยังจำกัดอยู่ในคนใช้ไอโฟน หากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รองรับจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ Instagram มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

“อุปสรรคอีกข้อน่าจะเป็นเรื่องของขั้นตอนการใช้งาน เวลาคนจะถ่ายภาพมักจะต้องคิด และหามุมภาพที่ดูดีที่สุด ไม่เหมือนกับแอพพลิเคชั่นด้านสื่อสารใช้งานได้ทันที การใช้งานเวลานี้เลยยังคงอยู่กับแบรนด์ที่ต้องการแสดงถึงเรื่องของดีไซน์ และเป็นแบรนด์ระดับกลางและสูง ยังไม่ลงในระดับแมส” 

นอกจากนี้ Instagram ยังมีคู่แข่งที่เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับตกแต่งภาพในลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น Molome เป็นของคนไทย จุดเด่นคือ รองรับการใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ ใช้ทั้งแอนดรอย แบล็คเบอร์รี่, และโนเกีย อีกโปรแรม คือ Picplz งานบนแอนดรอยด์ และกูเกิลพลัส ก็มีโปรแกรมใช้ฟิลเตอร์ตกแต่งภาพ 

สำหรับใช้แอพฯ สร้างแบรนด์ช่วงไหนจะได้ผล ภาวุธแนะนำว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ หากต้องการได้ภาพความทันสมัย เมื่อมีแอพพลิเคชั่นอะไรใหม่ๆ มาก็จะกระโดดไปใช้ก่อนใคร ไม่คำนึงถึงจำนวนผู้ใช้ว่าจะมีมากแค่ไหน ก็จะได้ภาพการเป็นแบรนด์ทันสมัยเป็น Fist Mover ในตลาด เช่น แสนสิริ ในขณะที่บางแบรนด์อาจเลือกรอให้ตลาดบูมถึงระดับที่เป็น “เมนสตรีม” ก่อนจะได้ในแง่ของจำนวนผู้ใช้ เช่น Instagram ก็มีบางแบรนด์เริ่มใช้แล้ว แต่หลายแบรนด์ก็รอให้บูมก่อนจึงจะนำมาใช้