อย. จัดนิทรรศการและงานเสวนาประชาสัมพันธ์ อย.กับการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่าด้วยดิจิทัล ภายใต้นโยบาย CHANGE FOR THE BETTER

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข จัดนิทรรศการและงานเสวนา อย.กับการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายและแนวปฏิบัติใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ CHANGE FOR THE BETTER With 5S เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดของการเปลี่ยนแปลง แนวทางการปฏิบัติรูปแบบใหม่ ความสำคัญ และหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงของ อย. ที่มุ่งหวังขับเคลื่อนองค์กรด้วยการทำงานอย่างบูรณาการเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน มุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุดในการรักษาผู้บริโภคให้ปลอดภัย  ผู้ประกอบการสามารถเดินหน้า และระบบคุ้มครองสุขภาพไทยยั่งยืน โดยมีการจัดทำนิทรรศการพร้อมทีมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเข้าและการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมการแสดงวิดีทัศน์ การบรรยาย และการเสวนาอภิปรายพิเศษจากผู้บริหาร โดยทาง อย. ได้เชิญคณะทูต และตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมรับชมพบปะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในงานครั้งนี้ ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖ ณ ห้องแมกโนเลีย บอลรูม โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ

นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม  เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน เปิดเผยว่า การจัดนิทรรศการและงานเสวนาครั้งนี้ มุ่งหวังประชาสัมพันธ์และสื่อสารให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศให้รับทราบ พร้อมขอความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก ถึงนโยบายและแนวทางการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ CHANGE FOR THE BETTER with 5S ที่อย.มุ่งพัฒนาการจัดการและการบริการด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่าในเรื่องของ การบริการที่ดีกว่า การคุ้มครองผู้บริโภคทีดีขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ภาพลักษณ์องค์กรที่ดีขึ้น และประเทศไทยที่ดีกว่า

อาทิ การพัฒนาช่องทางการพิจารณาและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์ e-Submission เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการขออนุญาตนำเข้า และปรับปรุงระบบเปิดสิทธิ์ ในการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวออกสินค้า ณ ด่านอาหารและยา ช่วยลดระยะเวลาในการติดต่อเจ้าหน้าที่ในการนำเข้าและออกสินค้าที่หน้าด่าน แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพก่อนถึงมือผู้บริโภค ตามมาตรการกำกับดูแลกระบวนการนำเข้าให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ส่วนของแนวทางปฏิบัติภายใต้นโยบาย 5S ประกอบด้วย Speed ลดขั้นตอนบริการ เพื่อความสะดวก-รวดเร็ว เร่งกระบวนการอนุมัติ/อนุญาต และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล Safety ความปลอดภัย สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างระบบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ และเน้นการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด Supporter ผู้สนับสนุน ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ Satisfaction ความพึงพอใจ ให้บริการอย่างมืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และ Sustainability ความยั่งยืน สร้างความมั่นคงด้านยาและเวชภัณฑ์ เพิ่มศักยภาพในการจัดการเหตุฉุกเฉินและทำให้บุคลากรมีความชำนาญในการทำงานและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง Thai FDA: Look Forward to the BETTER และการอภิปรายในหัวข้อ อย. สู่องค์กรดิจิทัล โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วัฒนศักดิ์ ศรรุ่ง  ผู้อำนวยการกองด่านอาหารและยา และ เภสัชกรอาทิตย์ พันเดช  ผู้อำนวยการกองผลิตภัณฑ์สุขภาพนวัตกรรมและการบริการ ซึ่งนอกจากแนวทาง CHANGE for the BETTER ที่เน้นให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่าที่จะเกิดขึ้น ภายในงาน อย.ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำปรึกษาแก่คณะทูต และตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงภายในงาน

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ  รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า กองด่านอาหารและยา คือหน่วยงานสำคัญในการสื่อสารโดยตรงกับสถานทูต หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาเสพติด และเครื่องมือแพทย์ ให้มีคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยเป็นไปตามกฎหมายและวิชาการ รวมถึงการให้ความรู้ คำแนะนำ และส่งเสริมพัฒนาให้ผู้ประกอบการในประเทศในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าและส่งออกที่มีคุณภาพมาตรฐานและข้อมูลที่ถูกต้องต่อสังคม รวมถึงศึกษา วิจัย และจัดทำมาตรฐานเพื่อกำกับดูแลการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับระบบสากล  ซึ่ง อย. มุ่งหวังได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและทุกเครือข่ายทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อความสัมฤทธิผลและสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรฯ และเพื่อความสำเร็จสูงสุด คือ การดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการประกอบธุรกิจได้ก้าวไกล และมีระบบคุ้มครองสุขภาพไทยให้ยั่งยืน