เรียบร้อย! Microsoft ปิดดีลค่ายเกมดัง Activision Blizzard มูลค่า 6.8 หมื่นล้านเหรียญ หลังยืดเยื้อนับปี

ภาพจาก Shutterstock
หลังจากที่ยืดเยื้อมานานในที่สุด Microsoft ก็ปิดดีลค่ายเกม Activision Blizzard หลังจากที่ถูกหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรและยุโรประงับการเข้าซื้อกิจการ เนื่องจากข้อกังวลว่าอาจจะ ผูกขาด ธุรกิจเกม

ย้อนไปช่วงมกราคม 2021 ยักษ์ใหญ่ไอทีอย่าง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัทผู้ผลิตวิดีโอเกมชื่อดังอย่าง Activision Blizzard โดยทางไมโครซอฟท์คาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในช่วงเดือนมิถุนายน 2023

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทจำเป็นต้องขยายกำหนดเวลาเป็นวันที่ 18 ตุลาคม เนื่องจากดีลดังกล่าวถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรและยุโรป หรือ CMA ด้วยเหตุกังวลเรื่อง การผูกขาด แต่ล่าสุดหน่วยงานกำกับดูแลได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ ทำให้ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็สามารถปิดดีล Activision Blizzard

โดยดีลนี้ถือเป็น ดีลที่ใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟท์ในรอบ 48 ปี โดยมีมูลค่าสูงถึง 68,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการที่ไมโครซอฟท์ได้ Activision Blizzard มาอยู่ในมือทำให้ไมโครซอฟท์มีแฟรนไชส์วิดีโอเกมดัง ๆ จำนวนมากในมือ อาทิ Call of Duty, Crash Bandicoot, Diablo, Overwatch, StarCraft, Tony Hawk Pro Skater และ Warcraft

อย่างไรก็ตาม ดีลนี้มาพร้อมเงื่อนไขที่ว่า การขายสิทธิ์การสตรีมบนคลาวด์ของ Activision จะเสร็จสิ้นก่อนที่การควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้น ซึ่งการขายลิขสิทธิ์การสตรีมเกมบนคลาวด์ของ Activision ให้กับค่าย Ubisoft เพื่อทำให้แน่ใจว่าทาง ไมโครซอฟท์จะไม่มีอำนาจเหนือตลาดที่สำคัญและกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างตลาดเกมบนคลาวด์

นอกจากนี้ บริษัทตกลงที่จะมอบใบอนุญาตฟรีแก่ผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรปในการสตรีมเกม Activision Blizzard พร้อมด้วยใบอนุญาตฟรีแก่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง เพื่อให้นักเล่นเกมชาวยุโรปสามารถเล่นเกมผ่านระบบคลาวด์ได้ รวมถึงยัง ลงนามข้อตกลงกับคู่แข่ง อย่าง Nintendo และ Sony ว่าจะให้ทั้ง 2 บริษัทเข้าถึงเกม Call of Duty เป็นเวลา 10 ปี

สำหรับรายได้ของ Activision Blizzard ในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมาปิดที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Source