เมื่อการออกบัตรเครดิต เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธการตลาดที่ห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตดึงดูดลูกค้ามาเป็นขาประจำและซื้อสินค้าได้ถี่ขึ้น ล่าสุดบิ๊กซีใช้จังหวะเงินเดือนคนจบปริญญาตรีเริ่มต้น15,000 บาท จับมือซิตี้แบงก์ ออกบัตรเครดิตระดับแพลตตินั่ม เงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 ก็รูดปรื้ดได้แล้ว
รีจิส พรีจอง รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า การร่วมมือกับบัตรซิตี้แบงก์นอกจากทำให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลงกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้ามาซื้อของที่บิ๊กซีมากขึ้น เพราะใช้บัตรแล้วได้ส่วนลด ที่สำคัญคือยังได้รอยัลตี้จากลูกค้า เพราะส่วนลดที่ได้รับนั้นไม่มีวันหมดอายุ รวมทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับบัตรบิ๊กการ์ดได้ ทำให้ได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นไปอีก จึงเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ประหยัดมากขึ้น
ไฮไลต์ที่ทำให้บัตรเครดิตซิตี้แบงก์-บิ๊กซี วีซ่า แพลตตินั่ม ต่างจากบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลตตินั่ม ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงคือเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปสามารถสมัครใช้บริการได้ ขณะที่บัตรเครดิตของเทสโก้ โลตัส จะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไปถึงจะสามารถเป็นเจ้าของบัตรแพลตตินั่มได้
นอกจากใช้ฐานเงินเดือนต่ำกว่ากวาดต้อนลูกค้าระดับแมสมาอยู่ในมือให้ได้มากที่สุดแล้ว บิ๊กซี ยังจูงใจด้วยการให้ผลตอบแทนถึง 5% ขณะที่บัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลตตินั่ม ให้เพียง 3.5% สามารถรับเงินคืนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ ใช้เป็นส่วนลดในร้านอาหารและศูนย์อาหารภายในห้าง รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ จากร้านค้าที่ร่วมรายการกับซิตี้แบงก์ได้ทั่วประเทศ ซึ่งมีความอิสระในการใช้งานมากกว่าของคู่แข่งที่จำกัดเพียงแค่การใช้จ่ายภายในห้างเท่านั้น
แนวทางของบิ๊กซีเลยไปตรงใจบัตรเครดิต “ซิตี้แบงก์ แพลตตินั่ม” ที่แต่เดิมมักชูจุดเด่นด้วยสิทธิพิเศษและส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ โดยจับกลุ่มลูกค้าระดับ B ขึ้นไป แต่วันนี้มีการแข่งขันเข้าขั้นดุเดือด เพราะคู่แข่งหลายรายต่างไม่ยอมแพ้และใช้กลยุทธ์เดียวกันมาสู้ ทำให้ซิตี้แบงก์ต้องออกแรงมากขึ้น ดังนั้นการจับมือกับพันธมิตรคือห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซีซึ่งมีจำนวนกว่า 170 สาขาทั่วประเทศ และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับแมสจึงช่วยตอบโจทย์ได้มากขึ้น
“เราตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตซิตี้แบงก์-บิ๊กซี วีซ่า แพลตตินั่มไว้ 5 แสนใบภายใน 5 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกับห้างค้าปลีกรายใหญ่ ที่มีกว่าร้อยสาขา มีลูกค้าใช้บริการหลายล้านคนต่อวัน ซึ่งจะช่วยเราขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มแมสได้”วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์กล่าว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซิตี้แบงก์ขยายฐานลูกค้าของตัวเองโดยการเป็นพันธมิตรกับห้างสรรพสินค้า เพราะก่อนหน้านี้เคยเป็นพันธมิตรร่วมกันกับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่อย่างกลุ่มเดอะมอลล์ในชื่อ Citi M Visa แพลตตินั่ม รีวอร์ด และห้างค้าส่งขนาดใหญ่อย่างแม็คโครในชื่อซิตี้แบงก์ แม็คโคร แพลตตินั่มรีวอร์ดมาก่อนแล้ว
แม้ว่ากลุ่มลูกค้าของแม็คโครกับบิ๊กซีอาจจะดูจะใกล้เคียงกัน แต่วรลักษณ์มองว่าพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแม็คโครนั้นส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ และมักใช้ในรูปแบบบัตรเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต ขณะที่พฤติกรรมของลูกค้าบิ๊กซีคือชอบซื้อสินค้าราคาถูกเพราะมีการการันตีราคาสินค้าว่าถูกห้างอื่นแน่นอน โดยผู้ใช้บัตรนี้จะได้รับส่วนลด 5% เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรรวม 6,000 บาทเมื่อซื้อของที่บิ๊กซี วันเสาร์อาทิตย์ได้รับส่วนลด 5% เมื่อใช้บริการร้านอาหารภายในห้าง และเมื่อซื้อคูปองที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ทุก 100 บาทจะได้รับเพิ่มอีก 5% นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น เติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ รับส่วนลด 2% สามารถผ่อนชำระค่าสินค้า 0% นาน 10 เดือน ส่วนลดจากร้านอาหารต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้การเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการล่วงหน้า 3 อาทิตย์ก่อนที่จะแถลงข่าวจึงทำให้มีผู้สมัครบัตรนี้ถึงหลักหมื่นราย ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าภายในปีแรกจะมีจำนวนผู้ใช้บัตรถึง 1 แสนใบตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ไม่ยาก
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>ชื่อบัตร
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>รายได้ขั้นต่ำ
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>กลุ่มลูกค้า
วีซ่า แพลตตินั่ม
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีพฤติกรรมชอบสินค้าราคาถูก
วีซ่า แพลตตินั่ม
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีพฤติกรรมชอบสินค้าราคาถูก
ซิตี้แบงก์ แม็คโคร แพลตตินั่ม รีวอร์ด
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มักจะซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ
Citi M Visa แพลตตินั่ม รีวอร์ด
ไม่เน้นเรื่องราคาแต่สนใจเรื่องคุณภาพและบริการเป็นอันดับแรก