IMET MAX เดินหน้าสู่ปีที่ 6 เปิดตัว 12 Mentors ผู้มีประสบการณ์บริหารองค์กรระดับชาติ เสริมแกร่ง “ผู้นำรุ่นใหม่” ที่ทั้งเก่งและดี สร้างอุทยานผู้นำ พาสังคมไทยเติบโตยั่งยืน ด้วยกระบวนการ Mentoring

มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ IMET สานต่อโครงการ “อุทยานผู้นำ” หรือ “IMET MAX” เป็นปีที่ 6เพื่อพัฒนานักบริหารชั้นนำรุ่นใหม่ที่ทั้งเก่งและดี สนับสนุนการพัฒนาและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ พร้อมร่วมส่งเสริมจิตสำนึกการสร้างคุณค่าเพื่อตอบแทนสังคม หลังประสบความสำเร็จมีผู้นำรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ หรือ เมนที (Mentee) สำเร็จจากโครงการ 5 รุ่นรวมกว่า 168 คน ผ่านกระบวนการ Mentoring หรือ กระบวนการช่วยคิด และ ชวนคิด อันเป็นกระบวนการเสริมสร้างปัญญาด้วยการสร้างมุมมอง “สะท้อนย้อนคิด” (Reflection) และการถ่ายทอดความรู้ แนวคิด และประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่ได้สะสมมายาวนานจากเมนเทอร์ (Mentor) ที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมมาสู่ เมนที ซึ่งเป็นผู้บริหารชั้นนำรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและตอบแทนสังคม  โดยดึง 12 ผู้บริหารชั้นนำระดับประเทศร่วมเป็นเมนเทอร์ (Mentor) ในปีนี้

คุณธนพล ศิริธนชัย กรรมการมูลนิธิ IMET และประธานโครงการ IMET MAX กล่าวถึงหัวใจสำคัญของการพัฒนาคนรุ่นใหม่ว่า ผู้นำรุ่นใหม่ล้วนแล้วแต่มีความเก่ง และมีความสามารถสูงทั้งสิ้น แต่ในปัจจุบัน จะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นคนดีและมองถึงการตอบแทนให้กับสังคมด้วย โดยโครงการ IMET MAX ได้เล็งเห็นว่า กระบวนการเรียนแบบ Mentoring ที่เป็นการชวนคิด และช่วยคิด เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้เมนทีได้พบปะพูดคุยกับเมนเทอร์ และสามารถเรียนรู้อย่างใกล้ชิดแบบกลุ่มย่อย โดยโครงการได้รับเกียรติจากผู้บริหารชั้นนำระดับประเทศอาสามาร่วมเป็นเมนเทอร์ ทำให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ได้มีโอกาสรับรู้ประสบการณ์อันมีค่าของแต่ละท่านเพื่อใช้บริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งเน้นในเรื่องสติปัญญาที่สมบูรณ์พร้อม Wisdom for Life and Social Values ที่ช่วยสร้างคุณค่าและความสมดุลของชีวิต ทั้งในเรื่องงาน การใช้ชีวิตและการตอบแทนสังคม

“Mentoring ฉบับ IMETMAX เป็นกระบวนการที่ไม่ใช่การที่ Mentor ใช้สมองในการคิด พูดคุย ตั้งคำถาม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเมนทีเท่านั้น แต่ต้องใช้ใจทำอย่างมาก ในการสร้างความไว้ใจ ให้ความห่วงใยและมีความรักต่อเมนทีสานสัมพันธ์กันราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นการให้อย่างไม่มีเงื่อนไขเพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่ดีและเก่งที่พร้อม Pay it Forward ให้คนรอบข้างต่อไป”คุณธนพล กล่าว

คุณบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และในฐานะเมนเทอร์ (Mentor)ของโครงการ IMET MAX กล่าวว่า เมนเทอร์ทุกท่านเป็นเมนเทอร์จิตอาสาที่อยากตอบแทนสังคมผ่านการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่ทั้งดีและเก่งให้ประเทศ จึงมุ่งมั่นถ่ายทอดประทอดประสบการณ์ของตนอย่างจริงใจ โดยแม้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจไม่เหมือนประสบการณ์ในอดีต แต่อนาคตก็ย่อมก่อร่างมาจากอดีต จึงหวังว่าจะสร้างประโยชน์ให้เมนที ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีและน่าจะมีบทบาทต่อสังคมในอนาคตนั้น สามารถนำไปขยายผลบวกกับสังคมในวงกว้างได้ในโอกาสถัดไป

“ประสบการณ์การเป็นเมนเทอร์หลายรุ่นของผม ทำให้เห็นว่า โครงการนี้ให้ประโยชน์กับทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องมหาศาล โดยเมนทีได้ประโยชน์ทั้งในมิติของ Wisdom และ Connection ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะเราทำอะไรคนเดียวไม่สำเร็จ จากนั้น เขาสามารถนำปัญญาและเครือข่ายไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ที่ Constructive หรือทำให้เกิด Productivity เพิ่มเติม ซึ่งสังคมส่วนรวมก็จะดีขึ้น เกิด Social Values ตามมา โดยส่วนตัว ผมรู้สึกขอบคุณโครงการนี้ เพราะเปิดโอกาสให้คนอายุ 70 ยังได้เรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมาก” คุณบรรยง กล่าว

ด้านคุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ KOOB หรือที่เรารู้จึกกันภายใต้นามปากกา ‘นิ้วกลม’ ในฐานะเมนที (Mentee) รุ่นที่ 4 กล่าวว่า ชีวิตทุกช่วงวัยล้วนต้องการคำปรึกษา ยิ่งโตก็ยิ่งมีคนให้ปรึกษาน้อยลง ในช่วงวัย 30-45 ปีเป็นช่วงที่เติบโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เผชิญคำถามใหม่ๆ ในชีวิตและการทำงาน สิ่งที่ต้องการอาจไม่ใช่ ‘คำเฉลยข้อสอบ’ ของชีวิต แต่กลับต้องการบทสนทนาที่ลึกซึ้งเพื่อนำไปกลั่นกรองและตกผลึกเป็นคำตอบของตัวเอง

“การเรียนรู้เปี่ยมคุณค่าเกิดขึ้นโดยไม่มีเจตนาของการแสวงหาผลประโยชน์ แถมยังเป็นกระบวนการเรียนรู้เยี่ยมยอดที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สำหรับ IMET MAX กระบวนการให้และรับนั้นเหมือนลมหายใจเข้าออก ไม่ได้แยกขาดจากกัน กระทั่งเป็นสิ่งเดียวกัน ตั้งอยู่บนพื้นฐานเจตนาดีต่อคนอื่น ผมจึงมองว่า IMET MAX เป็นโครงการที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมทั้งยังมอบคำตอบให้ผมว่า เราจะพัฒนาความรู้ความสามารถของตัวเองเพื่ออะไร มิใช่เพื่อเก่งกว่าใคร ทว่าคือเก่งเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างประโยชน์ให้ใครต่างหาก และนี่เป็นคำตอบสำคัญในช่วงวัยที่เรากำลังเติบโต มันคือคำตอบเดียวกันกับคำถามที่ว่า “ความหมายของชีวิตคืออะไร” IMET MAX มอบคำตอบให้ผมว่า “เรามีชีวิตอยู่เพื่อให้และรับ” ซึ่งมิใช่เรื่องพิเศษพิสดารอะไร หากเป็นอย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง ราวกับลมหายใจเข้าออก ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการให้และรับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” คุณสราวุธ กล่าวทิ้งท้าย”

สำหรับโครงการ IMET MAX รุ่นที่ 6ได้รับเกียรติจาก 12 ผู้บริหารชั้นนำของประเทศที่ล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมมาร่วมเป็นเมนเทอร์ ประกอบด้วย คุณสมประสงค์ บุญยะชัยคุณขัตติยา อินทรวิชัยคุณจรีพร จารุกรสกุล คุณธีรพงศ์ จันศิริ คุณเทวินทร์ วงศ์วานิช คุณปรีชา เอกคุณากูล คุณพรรณี ชัยกุลคุณภาณุ อิงคะวัต  คุณวรรณิภา ภักดีบุตร ดร.วิรไท สันติประภพ คุณวิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ และคุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์โดยจะมาให้คำชี้แนะ คำปรึกษา ช่วยคิด และชวนคิด รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ ให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนา และสามารถประยุกต์คุณค่าที่ตนได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและสังคม

โดยในปีนี้โครงการ IMET MAX เปิดรับสมัครผู้นำรุ่นใหม่ที่เป็นคนดี มีศักยภาพสูง และมีความต้องการพัฒนาตนเองด้วยกระบวนการ Mentoring ให้เข้าร่วมโครงการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ผู้สนใจสมัครเป็นเมนทีในโครงการ IMET MAX สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.imet.or.th/imetmax  และ YouTube Channel: IMET MAX Thailand และสมัครเข้าร่วมโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ – 18 มกราคม 2567