Hungry Hub (ฮังกรี้ ฮับ) แพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำแบบ One Stop Service เพื่อลูกค้าและร้านอาหาร/โรงแรม เดินหน้าประกาศกลยุทธ์สำคัญ “Supply Partnership” ดึงพาร์ทเนอร์ผู้นำในธุรกิจแพลตฟอร์มให้บริการการจองร้านอาหารและโรงแรมทั่วโลกร่วมเสริมแกร่งบนแพลตฟอร์ม อาทิ Reserve with Google, OpenRice, KKDay, Klook, GoKoo, GlobalTix, GetYourGuide, Pelago, MyRealTrip, xplORe และ TagThai โดยการร่วมมือครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์บนแพลตฟอร์มในช่วงไตรมาสแรก ปี 2567 เพื่อมุ่งเดินหน้าขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมระดับโลก พร้อมพลิกโฉมวงการอาหารและโรงแรมเต็มสูบ ตอบโจทย์ความต้องการนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 35 ล้านคน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยให้คึกคักอย่างต่อเนื่อง
นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฮังกรี้ ฮับ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ในงาน Hungry Hub Red Table Awards 2023 ว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ Hungry Hub และอุตสาหกรรมร้านอาหาร ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ Hungry Hub จะสามารถขยายเครือข่ายการเข้าถึงร้านอาหารชั้นนำกว่า 1,400 แห่ง ซึ่งถือเป็นการเป็นเพิ่มตัวเลือกร้านอาหารคุณภาพหลากหลายเซกเมนต์ตั้งแต่ Street Food ไปจนถึง Luxury Segment ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี รวมถึงสิทธิเศษที่ Hungry Hub มอบให้กับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ ด้วยดีลเอ็กซ์คลูซีฟที่เราจัดขึ้นร่วมกับร้านอาหารมากมาย Hungry Hub ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มจองร้านอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เราเดินหน้าคิดค้นบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้ครอบคลุม”
“เราไม่เพียงแค่ให้บริการจองเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์สุดพิเศษในการรับประทานอาหารของผู้คนทั่วโลก ภารกิจของเราคือการทำให้ทุกมื้อน่าจดจำ และความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการทรานส์ฟอร์ม Hungry Hub ให้เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์พิเศษในการรับประทานอาหารที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น” นายสุรสิทธิ์ กล่าว
ปัจจุบัน Hungry Hub มีพันธมิตรร้านอาหารมากกว่า 1,400 แห่ง มีผู้ใช้บริการจองโต๊ะแล้วกว่า 3,000,000 ที่นั่ง เฉลี่ยรายจ่ายต่อครั้งมากกว่า 1,000 บาท ที่ผ่านมาสร้างรายได้แก่ร้านอาหารพันธมิตรมากกว่า 700 ล้านบาทต่อปี มีผู้ใช้งานระบบเฉลี่ย 1 ล้านคนต่อเดือน และมี Top Customer หรือลูกค้าที่จองร้านอาหารผ่าน Hungry Hub จำนวนมากที่สุดในปี 2566 มากกว่า 100 ครั้งต่อปี ลูกค้ารายเดียวใช้จ่ายไปถึง 300,000 บาท หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Hungry Hub ในปี 2567 คือการเปลี่ยนฐานของผู้ใช้งานกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยจากปัจจุบันคิดเป็น 10% ของกลุ่มผู้ใช้ ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2567 โดยตลาดนักท่องเที่ยวหลักที่จะมุ่งเน้นในเฟสแรกคือ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลี
“ในอนาคต Hungry Hub จะยังคงมุ่งมั่นสร้างแบรนด์ให้เป็นดั่งเพื่อนที่คอยแนะนำร้านอาหารและโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย โดยมีรูปแบบการทำงานเสมือนเป็น Online Travel Agency (OTA) ของร้านอาหาร และด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการชั้นนำทั่วโลกในครั้งนี้ ธุรกิจของ Hungry Hub จะแข็งแกร่งขึ้น พร้อมที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้เพลิดเพลินกับอาหารที่หลากหลายผ่านดีลสุดคุ้มค่าตลอดการเดินทาง รวมถึงจะสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเฉลี่ย 20-30% ต่อปี จากฐานผู้ใช้จำนวนมากของ Hungry Hub รวมถึงกลยุทธ์ของเราในการช่วยเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับพาร์ทเนอร์อย่างครอบคลุม ทั้งในด้านการตลาดแบบ 360 องศาที่เข้าถึงผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ การเปิดพื้นที่เชื่อมต่อผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันในอุตสาหกรรม ตลอดจนการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมร้านอาหารและโรงแรมของไทย พร้อมคัดสรรโปรโมชันที่คุ้มค่าและแปลกใหม่มาให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง” นายสุรสิทธิ์ กล่าวเสริม
สำหรับ Hungry Hub Red Table Awards 2023 เป็นงานประกาศรางวัลที่จัดขึ้
นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จให้กั
บสุดยอดร้านอาหารพันธมิตรที่ร่
วมทำโปรโมชันกับ Hungry Hub มีทั้งร้านแบบ Stand Alone ร้านอาหารในห้างฯ ห้องอาหารโรงแรมชั้นนำ รวมถึงร้านรูฟท็อป โดยผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่
างเข้มงวดจากผลคะแนนจากผู้ใช้
งานแพลตฟอร์ม Hungry Hub กว่า 3 ล้านคนในปีที่ผ่านมา โดยรางวัลจะแบ่งออกเป็น 23 หมวดหมู่ เช่น Top Buffet Restaurant Award โดยมีร้านเด่นที่ได้รางวัล อาทิ Copper Beyond Buffet, Great Harbour International Buffet, Bangkok Sky Buffet (ชั้น 76/78) ที่โรงแรมใบหยกสกาย, The Dining Room ที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และ Rain Tree Cafe โรงแรม ดิ แอทธินี นอกจากนี้ ยังมีร้าน Audrey Cafe, เนื้อเเท้ และ Hongmin ที่ได้รับรับรางวัล Top Chain Restaurant Award รวมถึงยังมีรางวัลสำหรับบล็
อกเกอร์ยอดเยี่ยมที่มีส่วนช่
วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร้
านอาหารและโรงแรมอีกด้วย
โดยภายในงานยังมีพาร์ทเนอร์จากร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำมากกว่า 300 รายเข้าร่วม อาทิ ร้านแหลมเจริญซีฟู้ด ร้านคอปเปอร์บุฟเฟต์ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ โรงแรมดิ แอทธินี กรุงเทพ ร้านดับเบิ้ลยู โอมากาเสะ และอีกมากมาย มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของ Hungry Hub ที่ต้องการเป็นสร้างฮับเพื่อเชื่อมต่อผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรม ให้ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมสู่ระดับสากล
Related