‘Commy’ มองตลาด ‘อุปกรณ์เสริม’ โตสวนทางตลาดสมาร์ทโฟน เพราะของแพงต้องใช้นาน เลยต้องดูแลมากขึ้น

หากพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกและไทย ต้องยอมรับว่าหดตัวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นตลาด อุปกรณ์เสริม ที่มีการประเมินว่าจะมีมูลค่าประมาณ ครึ่งหนึ่ง ของตลาดสมาร์ทโฟน อาจจะไม่ได้หดตัวตาม เพราะคนหันมาดูแลสมาร์ทโฟนตัวเองมากขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้

คนใช้มือถือนานขึ้น แบตฯ เลยขายดี

คอมมี่ (Commy) หนึ่งในแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 30 ปีตั้งแต่ยุค โนเกีย ดังนั้นเชื่อว่าหลายคนน่าจะผ่านหูผ่านตากับคอมมี่มาบ้าง โดยปัจจุบันคอมมี่ได้ถูกส่งต่อมาถึงเจนสองอย่าง แพรว-อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย อรปรียา มองว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะที่ราคาสมาร์ทโฟนก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ ผู้บริโภคเปลี่ยนมือถือช้าลง จากอดีตอาจจะเปลี่ยนปีละเครื่อง แต่ปัจจุบัน เฉลี่ย 2 ปีขึ้นไป ทำให้ผู้บริโภคหันมาถนอมมือถือมากขึ้น และเลือกจะ เปลี่ยนแบตฯ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

“ไม่มีการเก็บข้อมูลตลาดอุปกรณ์เสริมชัดเจน เพราะมันจะมีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเยอะ แต่เชื่อว่าตลาดในไทยเติบโต” อรปรียา กล่าว

แพรว-อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

แบตฯ โตสุด ฟิล์มไฮโดรเจลกำลังมา

สำหรับรายได้ของคอมมี่คาดว่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโต 10% โดยปัจจุบันคอมมี่มีสินค้ากว่า 100 รายการ แบ่งได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 

    • แบตเตอรี่ ทั้งในกลุ่ม Power Bank และแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน
    • ฟิล์มกันรอยในกลุ่มฟิล์มไฮโดรเจล 
    • หัวชาร์จละสายชาร์จสำหรับไอโฟน
    • หูฟัง, ลำโพงบลูทูธ
    • สุขภาพ เช่น เครื่องฟอกอากาศในรถ หน้ากาก N95 และเครื่องวัดหรือทำออกซิเจน 

โดย แบตเตอรี่ เป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุดถึง 250% ขณะที่ Power Bank ก็ถือเป็นสินค้าที่ยังขายได้ โดยเฉพาะหน้าเทศกาล เช่น ช่วงสิ้นปีหรือก่อนสงกรานต์ ส่วน ฟิล์มกันรอยในกลุ่มฟิล์มไฮโดรเจล ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วน หัวชาร์จมือถือ ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้น เพราะหลายแบรนด์เลิกแถม และตอนนี้มอก. มีผลบังคับใช้ถึงกลุ่มหัวชาร์จมือถือแล้ว ทำให้ต่อไปก็ต้องขายเป็นขากลม Type-O ของประเทศไทย ใช้ขาแบนไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้แบรนด์เล็ก ๆ จากต่างประเทศหายไป

“ฟิล์มกระจกต้องมีรุ่นเป๊ะ ยิ่งจอโค้งทำให้ปัญหาเยอะ เราเลยทำไฮโดรเจลเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคแม้ยังติดภาพและชอบสัมผัสกระจก แต่พอปัญหาเยอะคนก็เริ่มเปลี่ยน ร้านเองก็ชอบมากกว่า เพราะฟิล์มกระจกสต็อกเหลือก็ต้องทำลายทิ้ง แต่ไฮโดรเจลสามารถคัสตอมไมซ์ได้ และราคาแทบจะพอ ๆ กัน” อรปรียา อธิบาย

เปิดหน้าร้านแรกย้ำความน่าเชื่อถือ

ล่าสุด คอมมี่ได้เปิด COMMY SHOP ออนกราวน์สโตร์แห่งแรก ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ โดย อรปรียา มองว่า เพราะพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบ O2O (Online to Offline) คือ สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และนำสินค้าไปรับบริการที่ร้านตัวแทนจำหน่าย เช่น สั่งซื้อแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนผ่านระบบออนไลน์และนำไปให้ที่ร้านค้าทำการเปลี่ยนให้ ดังนั้น คอมมี่จึงตัดสินใจเปิดออนกราวด์สโตร์ให้เป็น One stop service เพื่อจำหน่ายสินค้าและให้บริการอื่น ๆ เช่น เปลี่ยนแบตฯ, ติดฟิล์ม เป็นต้น

นอกจากนี้ในอนาคตคอมมี่มีแผนพัฒนา COMMY SHOP ให้เป็นสโตร์เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า B2B ด้วยบริการด้านต่างๆ ที่ครบวงจร อย่างการเป็นสโตร์พื้นที่เก็บสินค้า เมื่อลูกค้าต้องการสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดก็สามารถมาสั่งซื้อได้ทันที รวมถึงร้านเล็ก ๆ จะไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอง สามารถมารับที่สาขาของคอมมี่ได้เลย โดยปัจจุบันคอมมี่มีพาร์ตเนอร์ร้านตู้ทั่วไทยกว่า 4,000 ร้าน

“สาเหตุที่ลูกค้าไม่ซื้อของกับร้านตู้ แต่เลือกซื้อออนไลน์กับเราแล้วค่อยไปจ้างร้านติดก็เพราะความเชื่อถือของแบรนด์ ถ้าไปเปลี่ยนแบตฯ กับร้านเขาก็ไม่รู้ว่าร้านจะเอาแบตฯ อะไรมาให้ แต่ซื้อกับเราเขามั่นใจได้ และเราก็มีแนะนำร้านตัวแทนที่ให้ไปใช้บริการด้วย ทำให้ปีนี้ยอดขายออนไลน์เราโตถึง 20%” 

ปีหน้าตั้งเป้าโต 40%

สำหรับปีหน้า อรปรียา ตั้งเป้าจะเปิดออนกราวด์สโตร์เพิ่มอีกอย่างน้อย 5-10 สาขา โดยจะเน้นในกรุงเทพฯ​ และหัวเมืองต่างจังหวัด คาดว่าจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท และด้วยจำนวนช่องทางการจำหน่ายที่มากขึ้น คอมมี่ตั้งเป้า เติบโต 40%

“เราเชื่อว่าด้วยช่องทางที่มากขึ้นจะเป็นตัวบูสต์ยอดให้ได้ แต่เรื่องเศรษฐกิจค่อนข้างเป็นห่วง มันก็ส่งผลกันมาเรื่อย ๆ”