เปิดเบื้องหลังการคอลแลปของ ‘Infinix’ x ‘Ease Around’ สู่คอลเล็กชันพิเศษ ‘Happy Cool Dragon Year’ ที่ถ่ายทอด ‘ความคูล’ ของ Gen Z


ปีใหม่ทั้งที อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขึ้นชื่อเรื่องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ก็ได้ครีเอทคอลเล็กชันพิเศษรับปีมังกร Happy Cool Dragon Year ที่ได้ Ease Around แบรนด์อาร์ตเพื่อร่วมกันถ่ายทอดเอกลักษณ์และความเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่จาก Infinix โดย Positioning จะพาไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังก่อนที่จะเป็นคอลเล็กชันพิเศษนี้


รู้จัก Ease Around

จุดเริ่มต้นของ Ease Around เกิดมาจากสองคน ได้แก่ ป้อ-ชัยวัฒน์ อุทัยกรณ์ และ ตาล-วริษฐา จงสวัสดิ์ โดยมีจุดเริ่มต้นที่ว่า อยากมีแบรนด์ของตัวเอง หลังจากที่เริ่มใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งป้อมีความสามารถด้านการวาดภาพ ส่วนตาลทำงานด้านการตลาด ทั้งคู่เลยเริ่มสร้างคาแรกเตอร์ที่มีนิสัยเหมือนกับตัวเองก็คือ สนุก กวน ๆ แต่เรียบง่าย รู้สึกถึงความสบาย ผ่อนคลาย จนเกิดเป็น Ease ที่สื่อถึงความรู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย เรียบง่าย รวมกับคำว่า Around เพื่อสื่อถึงความต่อเนื่องและอยู่รอบ ๆ ตัว

จากนั้นก็ออกสินค้ามาขาย เช่น เสื้อยืด กระเป๋า เคสมือถือ เพื่อย้ำถึงคอนเซปต์ว่า คาแรกเตอร์เราไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคน

“แฟนคลับหลายคนชอบอีซเพราะเขาบอกว่ามันเหมือนตัวเขาเลย ซึ่งคาแรกเตอร์อีซที่เราออกแบบมาก็เปรียบเสมือนการส่งผ่านตัวตนของเราผ่านคาแรกเตอร์”


จุดเริ่มต้นการ Collab กับ Infinix

เราได้รับการติดต่อจากทาง Infinix ซึ่งคาแรกเตอร์แบรนด์และงานของเราเป็นในทิศางเดียวกัน และ Infinix เป็นแบรนด์ที่สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่แสดงความเป็นตัวตนผ่านทางศิลปะ อีกจุดที่ทำให้การร่วมงานกับ Infinix มันสนุก ก็คือความชัดเจนและไอเดียก็ตรงใจกับเรา

เพราะเราก็เคยคิดที่จะ หาเพื่อนให้อีซ เพื่อให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน และปีหน้าก็เป็นปีมังกร เราเลยออกแบบเป็น น้องมังกร เพื่อถ่ายทอดถึงความเท่ ความคูล ที่เข้ากับวัยรุ่น Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีร่วมกันอยู่แล้ว โดยเราออกแบบเป็นแนววันสนุก ๆ ที่ทำกิจกรรมร่วมกันจนเกิดเป็นคอลเล็กชัน Happy Cool Dragon Year

“เราคิดว่าที่ Infinix เลือกอีซเพราะมีความกวน มีความขี้เล่น ซึ่งเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของ Infinix จากนั้นเราใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการออกแบบ โดยเราจะไม่ใส่แค่มังกร แต่อีซจะมีหมวกมังกรในทุกกิจกรรม และตัวอีซจะมีสีสันมากขึ้นเมื่อมีน้องมังกร จากปกติจะเรียบ ๆ ใช้สีน้อย ๆ เพื่อชูความสนุก ความซ่า ความคูล พร้อมลุยไปกับเพื่อน”

สำหรับคอลเล็กชันพิเศษ Happy Cool Dragon Year จะประกอบไปด้วยสติ๊กเกอร์, ถุงย่ามสำหรับไปยิม และ กริ๊บต๊อก (Griptok) ติดหลังสมาร์ทโฟน โดยของพรีเมียมคอลเล็กชันพิเศษนี้จะไม่ได้มีวางจำหน่าย แต่จะให้ฟรีกับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่น Infinix ZERO 30 5G, Infinix NOTE 30 5G และ NOTE 30 4G


อยากเข้าวงการครีเอเตอร์ ทำเลยอย่าแค่คิด

ต้องเริ่มทำ คำตอบง่าย ๆ ของ ป้อ กับคำถามว่าถ้าอยากจะเข้าสู่วงการต้องทำอย่างไร โดยป้ออธิบายต่อว่า ช่วงยากสุดคือการเริ่ม ซึ่งตอนเริ่มจะเป็นช่วงในการลองผิดลองถูก ลองว่าเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ถ้าผ่านช่วงนี้มาได้มันก็จะไปต่อได้ โดยสำหรับใครที่อยากจะเริ่มงมือ ป้อแนะนำว่าให้เริ่มจาก ทำเรื่องที่ถนัด พยายามดึงตัวตนของออกมา และลองหยิบโน่นนี่นั่นมาผสม

“มันอาจจะยากในช่วงแรก นี่เป็นช่วงที่ต้องให้กำลังใจตัวเอง ถ้าผ่านไปได้เราจะเริ่มเห็นอะไรมากขึ้นว่าเวิร์กหรือไม่เวิร์ก”

หลังจากที่ผ่านจุดเริ่มต้นมาแล้ว สิ่งที่ต้องเรียนรู้ต่อไปก็คือ จะอยู่รอดอย่างไร จะทำยังไงให้มีพื้นที่เล็ก ๆ ให้ได้เติบโต ซึ่งทาง Ease Around ก็ต้องหมั่นสื่อสารกับแฟน ๆ ผ่านการใช้สื่อโซเชียล การออกบูธ คนดูเราอยู่ไหนก็ต้องไปอยู่นั่น เพื่อสื่อสารไอเดีย สื่อสารตัวละครไปอยู่กับคนที่สนใจ

ปัจจุบัน แฟนคลับอีซไม่ได้มีแค่ไทย แต่ดังไกลถึงต่างประเทศโดยมีแฟนคลับอยู่ที่ไต้หวัน ซึ่ง ป้อ มองว่า ด้วยคาแรกเตอร์ความตลกเป็นเรื่องสากลทำให้โดนใจแฟนคลับต่างชาติได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องมีการปรับบางอย่างเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรม เช่น ไต้หวันเป็นประเทศที่ชอบเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

ใครที่เป็นแฟนคลับ Infinix และ Ease Around สามารถซื้อได้ที่ร้าน BaNANA ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป และสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมความเคลื่อนไหวจากอินฟินิกซ์ ได้ทาง Infinix Mobile Thailand หรือทางเว็บไซต์ www.infinixmobility.com โดยป้อแง้มว่าอาจจะมีคอลเล็กชันใหม่ ๆ ให้ได้เห็นกันอีกแน่นอน