ดัชนีหุ้นจีนอย่าง CSI 300 ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 ปี สาเหตุสำคัญนั้นมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และยังรวมถึงเม็ดเงินจากนักลงทุนชาวต่างชาติลดน้อยลง โดยนักวิเคราะห์หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจะออกมาเร็วๆ นี้ เพื่อที่จะสร้างปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้นจีน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวบรวมหุ้นที่ซื้อขายในจีนแผ่นดินใหญ่ 300 บริษัท ได้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิดก็ตาม
ดัชนีดังกล่าวปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ 3,286.06 จุด ได้ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 เป็นต้นมา นอกจากนี้ผลตอบแทนในปี 2023 ที่ผ่านมายังมีผลตอบแทนติดลบติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ด้วย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีหุ้นจีนทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 ปีก็คือปัจจัยของความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนที่แม้ว่าจะมี GDP เติบโตถึง 4.9% ในไตรมาส 3 ของปี 2023 ผ่านมา ซึ่งถือฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด อย่างไรก็ดีตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อในจีนเองนั้นได้เข้าสู่สภาวะเงินฝืดหลายครั้งเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านี้ในปี 2023 ที่ผ่านมา นักลงทุนที่เป็นสถาบันการเงินต่างประเทศได้ลดการลงทุนในประเทศจีนลง สาเหตุสำคัญมาจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนลดน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงหลายปี
นอกจากนี้ยังมีวิกฤตธนาคารเงาในประเทศจีนรายใหญ่อย่าง Zhongzhi ประกาศล้มละลาย ยิ่งทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นจีนย่ำแย่ลงไปอีก
อย่างไรก็ดี Valuation ของหุ้นจีนนั้นถือว่าถูกแล้วถูกอีก โดยดัชนี CSI 300 นั้นมีสัดส่วนราคาต่อกำไร (P/E) อยู่ที่ราวๆ 10-11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี นอกจากนี้หุ้นจีนยังถือว่าถูกกว่าดัชนี MSCI Asia ex Japan ซึ่งมี P/E อยู่ราวๆ 13 เท่าอีกด้วย
Jason Lui หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตราสารอนุพันธ์ของ BNP Paribas ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจีนไม่ได้มีการประกาศมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง ขณะเดียวกัน Valuation ของหุ้นจีนถือว่าไม่ค่อยดีนัก และหุ้นจีนเองไม่ได้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดให้เม็ดเงินไหลกลับมาด้วย
ในบทวิเคราะห์หุ้นจีนจากหลายสถาบันการเงินต่างชาติได้มองสอดคล้องกันว่าในปีนี้ถือเป็นปีที่อาจลุ้นหุ้นจีนกลับมาได้ ถ้าหากจีนมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
Meng Lei นักกลยุทธ์ของ UBS ได้กล่าวกับ Bloomberg ว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจบลงแล้วและเราค่อนข้างจะมองโลกในแง่ดี โดยมองถึงกำไรของบริษัทจีนที่จะเพิ่มมากขึ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ดึงเศรษฐกิจของจีนมากเกินไป หรือแม้แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล