วัตสันเผย เทรนด์สุขภาพและความงามผู้บริโภค ที่ควรจับตามอง ปี 2024

ในช่วงปีที่ผ่านมา การใช้เวลานอกบ้านไม่ว่าจะเป็นการออกไปท่องเที่ยว แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน หรือทำกิจกรรมอื่นๆกลางแจ้งกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้การดูแลตัวเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจพร้อมออกไปพบปะผู้คนมากมายก็ดูจะเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่แพ้กัน

เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนตลาดด้านสุขภาพและความงาม จะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับผลสำรวจ[1]ล่าสุดจากวัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่เผยถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าจับตามองในปี 2024 นี้

New Year New Me กับแนวโน้มชอปเพิ่มเพื่อดูแลตัวเองของผู้บริโภคในปี 2024

ผลสำรวจของวัตสัน พบว่าผู้บริโภคกว่า39% มีแผนชอปปิ้งสินค้าด้านสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนโควิด สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งในด้านของสุขภาพภายใน และภาพลักษณ์ภายนอก รวมถึงสอดคล้องกับเทรนด์การเติบโตของสินค้ากลุ่มพรีเมียม อย่างน้ำหอมและเครื่องสำอาง ที่ผู้บริโภคมีความยินดีที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าโดนใจ

เพราะเมคอัพบ่งบอกตัวตนผู้บริโภคในปี 2024 ใส่ใจเรื่องสี สไตล์ และความเข้ากันได้มากขึ้น

ผู้บริโภคมากกว่า 90% เผยว่าสไตล์การแต่งหน้าถือเป็นส่วนสำคัญในการแสดงออกถึงตัวตน ทำให้ผู้บริโภคมีความใส่ใจในการเลือกสี สไตล์ และผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับบุคลิกของตนเอง หรือช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นตัวอย่างได้จากเทรนด์การเช็คPersonal Colourซึ่งเป็นการทำแบบทดสอบเพื่อหาโทนสีเมคอัพและเสื้อผ้าที่เหมาะกับโทนสีผิวของตนเองในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา การทำ Personal Colourได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเช็คด้วยตัวเองทางออนไลน์ หรือการเปิดสอนเป็นคลาสเรียน นอกจากนี้หลายๆ แบรนด์ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาแล้วว่ามีโทนสีที่เข้ากัน ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นผลิตภัณฑ์เมคอัพใหม่ๆ ในตลาดที่มีการแบ่งโทนสีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น เมคอัพโทนเข้ม-อ่อน โทนร้อน-เย็น หรือการจับคู่สีลิปสติกและสีบลัชออนที่ส่งเสริมกันและกัน เพื่อตอบรับตัวตนและการแสดงออกที่หลากหลายของผู้บริโภคถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำหรับตลาดเมคอัพที่ควรใส่ใจเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น

ช่องทางซื้อที่น่าเชื่อถือยังมีผลต่อการตัดสินใจ

ช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามยังคงเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจอย่างห้างสรรพสินค้าและหน้าร้าน ด้วยความตอบโจทย์ด้านความน่าเชื่อถือผู้บริโภคมั่นใจว่าได้รับสินค้าของแท้คุณภาพตรงปก สามารถหยิบจับ รวมถึงทดลองสินค้าได้ โดยผลสำรวจจากวัตสันเผยว่าห้างสรรพสินค้า (70.1%) ออนไลน์ชอปปิ้งแอปพลิเคชัน (56.1%) และร้านเพื่อสุขภาพและความงาม (51.9%) ยังคงทำคะแนนนำจากผู้บริโภคเหนือช่องทางที่เกิดขึ้นใหม่อย่าง Shoppertainment[2]และร้านค้าปลีกออนไลน์อยู่หลายเท่าตัว

โปรโมชั่นโดนใจ มีชัยไปเกินครึ่ง

ผู้บริโภคปี 2024ยังคงช่างเลือกและคำนึงถึงการชอปอย่างคุ้มค่า ก่อนเลือกสินค้าลงตะกร้าและจ่ายเงินโปรโมชั่นจะต้องคุ้มค่าจริงโดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าเมื่อจะตัดสินใจซื้อสินค้า ผู้บริโภคจะคำนึงถึงความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยปัจจัยด้านราคา และความน่าเชื่อถือของแบรนด์

คาดได้ว่าปี 2024 จะเป็นอีกปีที่สดใสสำหรับวงการสินค้าสุขภาพและความงาม ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริโภคพร้อมที่จะซื้อสินค้าที่จะช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีภายใน นอกเหนือจากการส่งเสริมภาพลักษณ์ภายนอก ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความงามกับสุขภาพค่อยๆ ลดความชัดเจน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการนี้ และหากรวมกับโปรโมชั่นโดนใจแล้วล่ะก็ รับรองว่าได้ใจผู้บริโภคไปเต็มๆ อย่างแน่นอน

ที่มา:
https://www.mckinsey.com/Industries/Retail/Our-Insights/The-beauty-market-in-2023-A-special-State-of-Fashion-report

https://www.premiumbeautynews.com/en/beauty-is-on-an-upward-trajectory,22100

[1]ผลสำรวจจาก Watsons Customer Trend Online Survey 2023-2024 จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 3,000 คนระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2023

[2]การชอปปิ้งรูปแบบใหม่ที่เน้นสร้างประสบการณ์การชอปปิ้งด้วยความบันเทิง เน้นการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภคด้วยการนำเสนอที่สนุกสนาน