ทายาท ‘เจียรวนนท์’ เปิดขายคอนโดฯ ‘อีเดน เอกมัย’ ชูจุดขาย ‘ยูนิตน้อย-ห้องใหญ่เหมือนอยู่บ้าน’

อีเดน เอกมัย
  • “ธัญทิพ เจียรวนนท์” ไปต่อกับโครงการอสังหาฯ แห่งที่สองในมือที่ “อีเดน เอกมัย” โชว์จุดขาย “ยูนิตน้อย” มีเพียง 17 ยูนิต ได้ห้องใหญ่เหมือนอยู่บ้าน ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท
  • เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก “1.6 ดีเวล็อปเม้นต์” เป็น “อีเดน เอสเตท” หวังติดหูลูกค้าคนไทยมากขึ้น

“ธัญทิพ เจียรวนนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัวโครงการใหม่ “อีเดน เอกมัย” ทำเลซอยเอกมัย 12 เป็นคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ “Ultra-Luxury, Low-Density” บนที่ดิน 1 ไร่ก่อสร้างเป็นตึกโลว์ไรส์ 7 ชั้น ที่มีเพียง 17 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท

อีเดน เอกมัยถือเป็นการพัฒนาโปรเจ็กต์แห่งที่สองในพอร์ตของบริษัท ต่อจาก “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ” ที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2561 ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้วและทำยอดขายไปกว่า 70%

ธัญทิพกล่าวว่า แนวคิดของโครงการอีเดน เอกมัยต้องการสร้างที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนยูนิตน้อย เพื่อให้ห้องชุดมีขนาดใหญ่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ใน “บ้าน” สามารถอยู่อาศัยเป็นครอบครัวได้จริง ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละเจนเนอเรชัน และสร้างอย่างมีคุณภาพเพื่อให้ส่งต่อเป็นทรัพย์สินให้กับลูกหลานได้

อีเดน เอกมัย
โครงการอีเดน เอกมัย คอนโดฯ 7 ชั้นที่มีเพียง 17 ยูนิต

โครงการนี้จึงมีห้องชุดเพียง 2 ไทป์ คือ “ดูเพล็กซ์ 2 ชั้น 3 ห้องนอนพลัส” พื้นที่ใช้สอย 350 ตร.ม. และ “ซิมเพล็กซ์ 2 ห้องนอนใหญ่” พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.

ทุกห้องเป็น “ห้องมุม” หน้ากว้างทั้งหมด เนื่องจากแต่ละชั้นจะมีห้องชุดไม่เกิน 4 ยูนิต มีลิฟต์ส่วนตัวทุกยูนิต พร้อมที่จอดรถ 3 คันต่อห้อง

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบส่วนกลางที่เข้าใจการอยู่อาศัยแบบลักชัวรีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เช่น ระบบ ‘Service Corridor and Elevator’ ทางเดินและลิฟต์เฉพาะสำหรับแม่บ้านและพนักงานคอนเซียจในการเข้ามาให้บริการแต่ละห้องชุด เพื่อไม่ให้ปะปนกับพื้นที่ส่วนตัวของลูกบ้าน, ฟิตเนสส่วนตัว 2 ห้อง, ห้องซาวน่าพร้อมห้องน้ำส่วนตัว

อีเดน เอกมัย
ภาพตัวอย่างห้องแบบดูเพล็กซ์ บริเวณห้องนั่งเล่นเป็นโถงเพดานสูง 5.8 เมตร

อีเดน เอกมัย พร้อมเปิดพรีเซลในราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาทต่อยูนิต ราคาเฉลี่ย 350,000 บาทต่อตร.ม. คาดก่อสร้างเสร็จปี 2569

ธัญทิพเชื่อว่าโครงการนี้น่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี วัดจากการขายโครงการก่อนหน้าที่ เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ ซึ่งห้องเพ้นต์เฮาส์ขายหมดอย่างรวดเร็ว และยังมีลูกค้าถามหาห้องชุดขนาดใหญ่เสมอ รวมถึงห้องชุดขนาดอยู่ได้ทั้งครอบครัวเป็นที่ต้องการมากของชาวต่างชาติที่ไม่สามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ แต่ในตลาดมีค่อนข้างน้อย ทำให้เชื่อว่าคอนโดฯ ลักษณะนี้จะทำยอดขายได้ดี

 

เปลี่ยนชื่อเพื่อสร้างแบรนด์ให้ “ติดหู”

ย้อนไปโครงการแรกที่ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ” ขณะนั้นบริษัทยังใช้ชื่อว่า “1.6 ดีเวล็อปเม้นต์” แต่ปัจจุบันบริษัทเดิมได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น”

“เหตุที่เปลี่ยนเพราะชื่อ 1.6 ไม่ค่อยติดหูเท่าไหร่ คนจำไม่ได้ เลยต้องหาชื่อใหม่ที่จำได้ง่ายขึ้น” ธัญทิพกล่าว “ชื่ออีเดนก็หมายถึงสวนอีเดน เป็นสวนที่สวยงามและพิเศษ”

“ธัญทิพ เจียรวนนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ด้านทิศทางบริษัทหลังเปลี่ยนชื่อใหม่ ธัญทิพมองว่าคอนเซปต์แบบอีเดน เอกมัยน่าจะสร้างชื่อและสามารถนำไปพัฒนาในทำเลอื่นๆ ได้อีก เพราะมองว่าไลฟ์สไตล์คนเมืองหลังผ่านโควิด-19 ทำให้ความต้องการเปลี่ยนไป ต้องการพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นและความสงบมากขึ้น

“บริษัทเราจะค่อยๆ พัฒนาเท่าที่จำเป็น ทำโครงการในทำเลที่มองว่าคนต้องการซื้อจริงๆ” ธัญทิพกล่าว “เราไม่ได้อยากทำใหญ่ที่สุด ไม่ได้อยากทำโครงการหลักพันห้อง โครงการ Ultra-Luxury, Low-Density น่าจะเป็นแนวทางของเรามากกว่า”