ศาลฮ่องกงสั่งให้ Evergrande บริษัทอสังหาฯ จีน ชำระบัญชีคืนเงินเจ้าหนี้ หลังพยายามปรับโครงสร้างแต่ไม่สำเร็จ

ภาพจาก Shutterstock
ยักษ์ใหญ่อสังหาจีนอย่าง ‘เอเวอร์แกรนด์’ ล่าสุดศาลฮ่องกงได้สั่งให้บริษัทเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีคืนเงินเจ้าหนี้ หลังจากบริษัทพยายามปรับโครงสร้างหนี้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งมูลหนี้ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายนี้เกือบ 11.57 ล้านล้านบาท

ศาลในฮ่องกงสั่งให้บริษัทเอเวอร์แกรนด์ (Evergrande) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เข้าสู่กระบวนการขายทรัพย์สิน (Liquidation) เพื่อชำระหนี้สินที่มีอยู่มากถึง 325,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 11.57 ล้านล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้ยื้อเวลาเพื่อที่จะขอปรับโครงสร้างหนี้มาเป็นระยะเวลา 2 ปี

ผู้พิพากษา ลินดา ชาน (Linda Chan) กล่าวว่า “ถึงเวลาที่ศาลจะต้องบอกว่าพอได้แล้ว” โดย Evergrande ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ได้ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา และมีการขึ้นศาลในหลายครั้งเพื่อที่จะขอปรับโครงสร้างหนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ก่อนการพิจารณาคดี Evergrande ได้ขอมีการขอเลื่อนนัดพิจารณาคดีในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ท้ายที่สุดศาลฮ่องกงสั่งไม่ให้มีการเลื่อนนัดออกไป และในช่วงบ่ายของวันนี้ (จันทร์ 29 มกราคม) จะมีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีชั่วคราวเพื่อดูแลผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายดังกล่าว ก่อนจะมีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีถาวร

Evergrande ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศจีน ในช่วงเวลาหนึ่งบริษัทมีธุรกิจลูกไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านการเงิน หรือแม้แต่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แต่หนี้สินอันพอกพูนจากการขยายกิจการ รวมถึงมาตรการสำคัญจากรัฐบาลจีนในการควบคุมธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การก่อหนี้ของบริษัท หรือการขยายโครงการ ฯลฯ

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายรวมถึง Evergrande ประสบปัญหาในการเงิน เนื่องจากหนี้ที่พอกพูนมหาศาล ขณะเดียวกันตลาดบ้านในจีนมีราคาลดลง ยิ่งทำให้บริษัทอยู่ในสภาวะลำบาก จนทำให้บริษัทขาดกระแสเงินสดอย่างหนัก และต้องเบี้ยวการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้

วิกฤตดังกล่าวยังทำให้ สีว์ จยาอิ้น ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ต้องขายสินทรัพย์ส่วนตัวมาใช้หนี้สินที่เกิดขึ้น คิดเป็นเงินไทยราวๆ 35,000 ล้านบาทในช่วงเวลานั้น แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก เนื่องจากมูลหนี้ที่มหาศาล

ผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ยังกระทบต่อความมั่งคั่งของชนชั้นกลางจีนเนื่องจากสินทรัพย์ของชาวจีนส่วนใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 อยู่ในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ และปัญหาดังกล่าวยังทำให้ชาวจีนขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจทันที

แต่ประเด็นสำคัญของการปล่อยให้ยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายนี้ล้มลงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจะไม่อุ้มภาคอสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป

Siu Shawn ซึ่งเป็น CEO ของ Evergrande ได้กล่าวว่าแม้บริษัทจะเข้าสู่กระบวนการขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ แต่บริษัทจะพยายามที่จะสร้างโครงการที่มีอยู่ให้แล้วเสร็จ และคำสั่งของศาลจะไม่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ หรือในต่างประเทศ

คาดว่าหลังจาก Evergrande ถูกสั่งให้ชำระบัญชีแล้วนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายปีที่กระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้น และเงินที่ได้มานั้นจะชำระมูลหนี้ได้แค่ราวๆ 3.4% ของมูลหนี้ทั้งหมด

ที่มา – BBC, Reuters, CBC