“DeeMoney” Fintech สัญชาติไทย ผู้ให้บริการการโอนเงินไปต่างประเทศ เผยปี 2566 ทางบริษัทมีการปั้นแบรนด์ สร้างการรับรู้และได้รับผลตอบรับด้าน “Brand Positive Awareness” เพิ่มขึ้นเป็น 45% ในปี 2567 นี้เตรียมต่อยอดและตอกย้ำแบรนด์ผ่านจุดเเข็ง “เรทดี ไวดี ง่ายดี” และผลักดัน application DeeMoney ให้มียอดดาวน์โหลดที่เติบโตขึ้น พร้อมเล็งเป้าหมายรุกตลาดที่มีศักยภาพสูง เพื่อกระตุ้นยอด Transaction ให้เพิ่มมากขึ้น บนพื้นฐานหลัก มุ่งพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจแบบก้าวกระโดด
อย่างที่เราทราบกันดีว่า DeeMoney เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโอนเงินไปต่างประเทศ ที่รองรับมากกว่า 26 สกุลเงิน ครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การบริหารงานของ “อัศวิน พละพงศ์พานิช” CEO & Co-Founder และ “รัศเมฆ ศรีเศรษฐี” MD & Co-Founder ปี 2566 ที่ผ่านมา DeeMoney เป็น Fintech รายแรกของไทยที่กระโดดลงมาสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง ด้วยการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า ประเดิมออกภาพยนตร์โฆษณาตัวแรกในชื่อ “โอนไวระห่ำโลก” ต่อยอดเป็นกิจกรรมผ่านแคมเปญชื่อ #DeeMoneyOWNDEEChallenge และกิจกรรมส่งเสริมการขาย กระตุ้นการเพิ่ม “Transaction” สำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ในกิจกรรม “DeeMoney โอนดีแจกฟรีเทสล่า” นอกจากนี้ยังจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง “ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)” ในการบุกตลาดเมียนมาในประเทศไทย เป็นต้น
ในปี 2024 ที่อุตสาหกรรม FinTech ทั้งของไทยและของโลก มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยมีบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้านการเงินและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเงินมากมาย อีกทั้งคนทั่วโลกต่างกำลังให้ความสนใจในการใช้บริการ FinTech เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการความสะดวกสบายในการทำธุรกิจและการเงิน จึงทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง อัศวิน พละพงศ์พานิชม CEO & Co-Founder, DeeMoney เผยว่า “คนทั่วโลกและคนไทยมีปริมาณการชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่า FinTech กำลังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจและการเงิน ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ที่ผ่านมาการขับเคลื่อนในฐานะของผู้ให้บริการอันดับ 1 ในการเป็นธุรกิจ non-bank ภาคเอกชนที่ให้บริการโอนเงินไปต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับ และมีความน่าเชื่อถือ จากจุดเด่นที่เราให้ความสำคัญในเรื่องของ Product และ Service ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา และขยายพื้นที่การให้บริการที่เพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต”
“ปีนี้ DeeMoney มีการพัฒนาอัพเดท Feature ใหม่ๆ ในแอปพลิเคชัน โดย Feature หลักที่มีการเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ การเพิ่มฟังก์ชั่นด้านภาษาใน Application DeeMoney ที่สามารถรองรับได้มากถึง 7 ภาษา อาทิ ภาษาจีน ภาษาเมียนมา ภาษาตากาล็อค เป็นต้น นอกจากนี้ DeeMoney ยังได้อัพเกรดบริการเพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อาทิ การเปิดรูปแบบการโอนเงินส่วนบุคคลไปยังธุรกิจที่ประเทศอินเดีย (India P2B: Personal-to-Business) นับว่าเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่ต้องการโอนเงินในด้านธุรกิจไปยังประเทศอินเดีย, PHP Wallet การโอนเงินผ่าน DeeMoney ไปยัง 6 Wallets ชั้นนำในประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากปัจจุบันจำนวนผู้ใช้ช่องทางการทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 84 โดยการสำรวจพบว่า ช่องทางการชำระเงินดิจิทัลหรือไร้เงินสด ที่เป็นที่ต้องการในฟิลิปปินส์ คือ “กระเป๋าเงินมือถือ (Mobile Wallet)” คิดเป็นร้อยละ 64 ของชาวฟิลิปปินส์ นี่จึงเป็นสิ่งที่ทาง DeeMoney เราใส่ใจถึงความต้องการของลูกค้า และมุ่งมั่นพัฒนา ปรับปรุง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของบริการเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าผู้ใช้บริการของ DeeMoney ”
ด้าน รัศเมฆ ศรีเศรษฐี Managing Director & Co-Founder, DeeMoney ผู้อยู่เบื้องหลังของการสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้เพื่อส่งเสริมทั้งด้านการตลาด และโอกาสทางธุรกิจได้เสริมต่อว่า “ปีนี้ DeeMoney ยังเดินหน้าสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ไดเรกชั่น ที่ DeeMoney จะทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ , ผู้ใช้งาน , สื่อ และพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ มากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค โดยการผลักดันผ่านแคมเปญ, โปรโมชัน ที่เชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และยั่งยืนกับลูกค้าได้ในระยะยาว โดยในปีนี้เรายังสานต่อจุดแข็งของ DeeMoney กับ 3 USP ผ่านแคมเปญหลัก คือ โอนดี “เรทดี ไวดี ง่ายดี” คือ “เรทดี” ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี และคิดค่าธรรมเนียมการทำรายการคงที่ โดยการโอนเงินไปต่างประเทศ มีค่าบริการเริ่มต้นที่ 125 บาท เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าบริการของคู่แข่งรายอื่นทาง DeeMoney คิดค่าบริการในราคาที่ถูกกว่า, “ไวดี” โดยการันตีระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชีปลายทางภายใน 1 วันทำการ (สามารถตรวจสอบประเทศปลายทางที่ให้บริการได้ทางเวบไซต์ DeeMoney) และ “ง่ายดี” สำหรับแอพลิเคชั่น ดีมันนี่ มีความสะดวก ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และโปร่งใสในการให้บริการ (Transparency) และที่สำคัญผู้ใช้งานสามารถดำเนินการในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง (Self-service)”
“ในปี 2024 นี้ DeeMoney เรามีแผนงานที่ต้องการต่อยอดความสำเร็จและเน้นย้ำ “OWNDEE” Uniques selling points หลักอย่างต่อเนื่อง อาทิ
- การยกระดับการสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านการเล่าเรื่องราวจาก Customer Experience
- การเพิ่มการรับรู้ถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผ่านแคมเปญที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับใบรับรองการดำเนินงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย ,สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง) และการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านความคิดเห็นของลูกค้า (Voice of Customers)
- ในส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาด DeeMoney โฟกัสกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเดิม (Existing Customers) และต่อยอดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ (New Customers) ที่จะสร้างการรับรู้ การสื่อสารเรื่องความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เกิดการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น”
อัศวิน พละพงศ์พานิช เสริมปิดท้ายว่า “ในปีนี้ DeeMoney เรายังคงพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมกลยุทธ์ในการรุกตลาดที่มีศักยภาพสูง อาทิ กลุ่มลูกค้าอินเดีย และจีน ที่จะเห็นได้จากกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดต่างๆที่ออกมาในช่วงไตรมาสแรก เพื่อตอบโจทย์ ไดเรกชั่น ที่ทางบริษัทได้วางเอาไว้ และเป็นการยืนยันได้ว่า DeeMoney เราไม่หยุดที่จะพัฒนา เพื่อที่จะคงความเป็นอันดับ 1 ในด้านการให้บริการโอนเงินไปต่างประเทศ ต่อไป”