คาร์กิลล์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ชั้นนำระดับโลก และวีพีเอฟ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อสุกรคุณภาพ ประกาศความร่วมมือภายใต้การลงนามข้อตกลงความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการผลิตอาหารสุกรด้วยเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์ระดับโลกของคาร์กิลล์เพื่อส่งมอบอาหารสุกรคุณภาพให้กับวีพีเอฟ จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่วีพีเอฟจะดูแลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตเนื้อสุกรเพื่อส่งมอบเนื้อสุกรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโภชนาการอาหารและปลอดภัยให้กับผู้บริโภคชาวไทย
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันในด้านการยกระดับมาตรฐานโภชนาการอาหารสัตว์อย่างยั่งยืนตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดส่งผลให้สัตว์เติบโตอย่างมีคุณภาพและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งจะช่วยให้วีพีเอฟสามารถพัฒนาภาพรวมของผลผลิต เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงเนื้อสุกรที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยสำหรับการบริโภค ในขณะเดียวกัน คาร์กิลล์ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพื่อส่งให้กับภาคเหนือของประเทศไทย และส่งมอบอาหารสุกรคุณภาพสูงให้กับวีพีเอฟ
ปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคเนื้อหมูไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.91 ต่อปี1 โดยเฉพาะผู้บริโภคในเขตภาคเหนือที่มีการบริโภคเนื้อสุกรมากเป็นลำดับที่ 2 ของประเทศรองจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็น 18% ของจำนวนการบริโภคทั้งหมด หรือกว่า 200 ล้านกิโลกรัมต่อปี2 ทั้งนี้เพื่อที่จะส่งเสริมคุณภาพและความปลอดภัยในการบริโภคเนื้อสุกร จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง วีพีเอฟ และ คาร์กิลล์
ตลอดระยะเวลากว่า 42 ปีที่คาร์กิลล์ ประเทศไทย ยังคงเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ชั้นนำ ความร่วมมือในครั้งนี้ คาร์กิลล์ นำเทคโนโลยีกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานระดับโลกของคาร์กิลล์ มาใช้ในการผลิตอาหารสุกรให้กับวีพีเอฟ คาร์กิลล์มีการพัฒนาสูตรอาหารที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของสุกรในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้สุกรได้รับโภชนาการอาหารและทำให้เนื้อสุกรมีคุณภาพ นอกจากนั้น คาร์กิลล์ ยังเน้นในการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด มีทีมผู้เชี่ยวชาญจากคาร์กิลล์ช่วยแนะนำและควบคุมคุณภาพตลอดกระบวนการผลิต ก่อนส่งมอบสินค้าอาหารสัตว์แก่ วีพีเอฟ สำหรับการเลี้ยงดูสุกรภายใต้ระบบการรักษาสุขอนามัยที่ดี เพื่อให้สุกรเติบโตอย่างสมบูรณ์และปลอดภัย ส่งผลให้เนื้อสุกรมีคุณภาพสูงเหมาะแก่การบริโภค
นายอัครฤทธิ์ บุญทวี กรรมการบริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด กล่าวว่า “คาร์กิลล์มุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและความสามารถของเราในการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุดผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ปรับแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงช่วยส่งเสริมการเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีและแข็งแรง แต่ในขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยส่งเสริมการจัดหาเนื้อสุกรคุณภาพสูงซึ่งเป็นแหล่งพลังงานอาหารหลักให้กับประชากรไทยท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทายอย่างต่อเนื่อง”
นายวรพงศ์ จีรประภาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด กล่าวว่า “ในการร่วมมือกันระหว่าง VPF กับ Cargill ในครั้งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานที่สอด คล้องกันในด้านคุณภาพและมาตรฐานในทุกกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้อาหารที่ปลอดภัย VPF ยึดถือเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญมาโดยตลอด ได้มีการพัฒนาห่วงโซ่การผลิต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ดูแลและใส่ใจกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีสำหรับการผลิตอาหารให้กับสุกรในฟาร์มของเราเองไปจนถึงกระบวนการชำแหละตัดแต่งเนื้อสุกร การปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้คุณค่าที่เหนือกว่ามาตรฐานและพร้อมส่งต่อให้กับผู้บริโภค ตามแนวคิดที่ว่า “Value Beyond Standard” คุณค่าเหนือมาตรฐาน”
คาร์กิลล์พร้อมเดินหน้าร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อยกระดับมาตรฐานเนื้อสุกรไทยให้มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย คาร์กิลล์ และ วีพีเอฟ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมก้าวสู่การทำธุรกิจสีเขียวผ่านการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั่วโลก สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม
1สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ: สถานการณ์สินค้าสุกร และแนวโน้ม ปี 2567
2รายงานสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2566