ผลสำรวจพบ ‘วัยรุ่นอเมริกัน’ เริ่มลดเวลาการใช้โซเชียลฯ เพราะรู้สึกว่าใช้งานมากเกินไป

ตามรายงานของ Pew Research Center ที่สำรวจวัยรุ่นสหรัฐฯ 1,453 คน อายุ 13 ถึง 17 ปี และผู้ปกครองของพวกเขา ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 23 ตุลาคม 2023 พบว่า วัยรุ่นชาวอเมริกัน 95% สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟน และ 1 ใน 3 ของวัยรุ่นใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักอย่างน้อย 1 จาก 5 แพลตฟอร์ม เกือบตลอดเวลา

ส่งผลให้วัยรุ่นประมาณ 40% ได้ลดเวลาในการใช้โซเชียลมีเดีย โดย 38% ตระหนักว่า ใช้เวลามากเกินไป กับสมาร์ทโฟน และ 27% รู้สึกว่าตัวเองใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากเกินไป และมีวัยรุ่นบางส่วนมีแผนที่จะ กำหนดขอบเขตที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีวัยรุ่นถึง 51% ที่เชื่อว่าใช้เวลากับมือถือได้อย่างเหมาะสมแล้ว

นอกจากนี้รายงานยังพบว่า ผู้หญิง มีแนวโน้มจะใช้เวลากับโทรศัพท์มากเกินไป (44%) มากกว่าผู้ชายวัยรุ่น (33%) และผู้หญิงตระหนักว่าการใช้งานโซเชียลมีเดีย มีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต เนื่องจากเรื่องภาพลักษณ์บนโซเชียลฯ

การสำรวจพบว่า วัยรุ่น 72% รู้สึก มีความสุข เมื่อวางหน้าจอ แต่ก็มี 44% ของวัยรุ่นที่ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขารู้สึกวิตกกังวลเมื่อไม่มีโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังพบว่า มีวัยรุ่นประมาณ 7-32% ที่ตอบว่ารู้สึก กังวล หงุดหงิด หรือเหงา เมื่อพวกเขาไม่ได้เล่นโทรศัพท์

แม้ว่าวัยรุ่นมากกว่า 2 ใน 3 เชื่อว่าประโยชน์ของสมาร์ทโฟนมีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนในโรงเรียนเป็นเรื่องง่าย แทนที่จะยากขึ้น แต่ผู้ตอบแบบสอบถามถึง 42% เชื่อว่า สมาร์ทโฟนทำให้การเรียนรู้ทักษะทางสังคมที่ดีทำได้ยากขึ้น

ที่ผ่านมา วิเวก เมอร์ธี ผอ.หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่า เยาวชนอายุ 13 ปี ถือเป็นอายุต่ำสุดที่จะมีโซเชียลมีเดีย และรัฐหลายแห่งในสหรัฐฯ พยายามที่จะผ่านกฎหมายเพื่อป้องกัน ไม่ให้วัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เนื่องจากกังวลเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพจิต

สำหรับประเทศไทยมีการศึกษาจาก เทเลนอร์ เอเชีย ระบุว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากที่สุดในเอเชีย โดยเกือบ 9 ใน 10 หรือ 86% ใช้เวลามากกว่าครึ่งวันบนมือถือ, 1 ใน 5 ใช้ชีวิตโดยมีมือถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา และคาดว่า 83% จะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาค ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ๆ มาจากการใช้บริการออนไลน์ 78%, การทำงาน 78% และการปฏิสัมพันธ์บนโลกโซเชียล 67%

Source