ในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมียอดจดทะเบียนรถใหม่ทั้งหมดกว่า 7 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 695.9% มากเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และปีนี้ก็มีหลายค่ายรถยนต์อีกหลายรายที่เข้ามาทำตลาดในไทย และหนึ่งในนั้นก็คือ Omoda และ Jaecoo แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนจากค่าย Chery Group
รู้จัก Chery Group
เชอรี่ กรุ๊ป (Chery Group) ก่อตั้งเมื่อปี 1997 โดยเริ่มจากการผลิตและขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์เป็นหลัก จนมาปี 1999 บริษัทได้ซื้อสิทธิ์ในการใช้แชสซีส์ของรถยนต์รุ่น SEAT Toledo มาพัฒนาเป็นแบรนด์ของตัวเองในชื่อ Fengyun และทำยอดขายในปีแรกได้ถึง 30,000 คัน
จนมาปี 2001 เชอรี่ก็เริ่มส่งออกรถยนต์ ทำให้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์รายแรก ๆ ของจีนที่ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนไปทั่วโลกรวมแล้วกว่า 80 ประเทศเลยทีเดียว ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิต 10 แห่งในต่างประเทศ โดยมีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรวมกันกว่า 1,500 แห่ง มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 5 แห่งในโลก และในทีม R&D มีพนักงานมากกว่า 7,000 คน
ปัจจุบัน เชอรี่ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ Top 10 ของจีน แต่เป็น เบอร์ 1 ในการส่งออกรถยนต์นั่งตลอด 20 ปีมานี้ โดยในปี 2022 ถือเป็นปีที่เชอรี่ประสบความสำเร็จในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยอดขายต่อปีเกิน 450,000 คัน
บุกอาเซียนโดยใช้ไทยเป็นฐาน
ปัจจุบัน ตลาดหลักของเชอรี่ คือ ยุโรป, อเมริกาใต้, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา ฯลฯ โดยล่าสุดเชอรี่จะมุ่งเน้นไปที่การขยายตลาดอาเซียน โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลัก เพื่อผลิตและส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคนี้ รวมถึงโอเชียเนียด้วย ภายใต้บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) (OMODA & JAECOO (Thailand))
เบื้องต้น บริษัทมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานในไทยที่ ระยอง โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์ในช่วงกลางปีหน้า (2025) มีกำลังการผลิต 5 หมื่นคัน อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถเปิดเผยเงินลงทุนได้
นำเข้า 4 รุ่น ปักเป้ายอดขาย 6 คันในปีนี้
สำหรับแผนการบุกตลาดไทยปีนี้ บริษัทจะนำเข้ารถทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- OMODA C5 EV : รถยนต์ครอสโอเวอร์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจะเปิดตัวและราคาในช่วงไตรมาส 2
- JAECOO 7 PHEV : รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดออฟโรด SUV จับกลุ่มพรีเมียม เปิดตัวในช่วงไตรมาส 3
- JAECOO 8 PHEV : รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด SUV เปิดตัวไตรมาส 4
- JAECOO 6 EV : รถ SUV ไฟฟ้า 100% เปิดตัวไตรมาส 4 เช่นเดียวกัน
ในส่วนของโชว์รูมกำลังก่อสร้าง รวมแล้วมี 35 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 พร้อมสำหรับเปิดตัว OMODA C5 EV
“เราศึกษาตลาดไทยมา 2 ปีแล้ว เพราะตลาดไทยไม่ใช่ตลาดที่ง่าย ไม่ใช่เอาอะไรมาขายก็ได้ ซึ่งเราคิดแล้วว่ารุ่นที่นำเข้ามาจะเหมาะกับตลาดไทย และราคาต้องเข้าถึงและแข่งขันได้ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าแบรนด์เรามีความยูนีค ทำให้ไม่มีคู่แข่งโดยตรง” ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ฉี เจี๋ย ปักเป้ายอดขายปีนี้ที่ 6,000 คัน คาดว่ายอดขาย 70% เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% และติด Top 3 แบรนด์จีนในไทยภายใน 3 ปี หรือต้องมียอดขายถึง 30,000 คัน และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการนำเข้ารถยนต์แบรนด์อื่น ๆ ในเครือเข้ามาทำตลาดในไทยอีก อาทิ Arrizo, Tiggo และ EXEED
เจาะสเปกทั้ง 4 รุ่น
OMODA C5 EV
- กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 7.2 วินาที
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร
JAECOO 7 PHEV
- ระบบปลั๊กอินไฮบริด
- กำลังสูงสุด 346 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 525 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 7.9 วินาที
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 95 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ในรถยนต์รุ่นก่อนผลิตจริง หรือ Pre-production)
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้า 1,280 กิโลเมตร
JAECOO 8 PHEV
- ระบบปลั๊กอินไฮบริด
- กำลังสูงสุด 605 แรงม้า
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 5.4 วินาที
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 175 กิโลเมตร
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้า 1,321 กิโลเมตร
JAECOO 6 EV
- การขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า 100%
- กำลังสูงสุด 279 แรงม้า
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 6.5 วินาที
- ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 470 กิโลเมตร