บีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas) เปิดตัวธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยชูจุดเด่นในเรื่องการเป็นธนาคารรายใหญ่จากยุโรป และมีประสบการณ์ในการวางแผนการเงินและให้คำแนะนำในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ขณะเดียวกันก็มองโอกาสในประเทศไทยนั้นมีจำนวนเศรษฐีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่ง
วินเซนต์ เลอคอมต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบีเอ็นพี พารีบาส์ เวลท์ แมเนจเม้นท์ ได้กล่าวถึงธุรกิจของ BNP Paribas ในทวีปเอเชียถือว่ามีความสำคัญกับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าโอกาสสำคัญจากความมั่งคั่
นอกจากนี้เขายังได้กล่าวถึง BNP Paribas นั้นถือเป็นผู้เล่นเบอร์ 1 ของธุรกิจ Wealth Management ในทวีปยุโรป แล้วด้วยการเป็นธนาคารขนาดใหญ่ระดับโลกนั้นสามารถใช้กลยุทธ์ One Bank Model ด้วยการนำเอาความเชี่ยวชาญมาบูรณาการรวมกัน มองแบบองค์รวม
ขณะเดียวกันเขายังกล่าวถึงการพาลูกค้าไปสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ลูกค้าลงทุนมากกว่า 53% นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เน้นความยั่งยืนรวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคม และยังได้สนับสนุนเรื่องดังกล่าวผ่านการแนะนำสู่ลูกค้าโดย Relationship Manager
อาร์โนลด์ เทลิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บีเอ็นพี พารีบาส์ เวลท์ แมเนจเม้นท์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวถึงทวีปเอเชียถือเป็นเป็นตลาดสำคัญของ BNPP ถือเป็นเครื่องจักรของการเติบโตของธนาคาร ตั้งเป้าเป็นแบงก์สำหรับผู้ประกอบการและครอบครัวในละแวกนี้ และยังชี้ถึงการส่งต่อความมั่งคั่งในทวีปเอเชียภายในปี 2030 จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล
เขายังกล่าวถึงความสำคัญของตลาดไทยต่อธุรกิจระดับภูมิภาคว่า ประเทศไทยที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่มีพลวัต มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาค โดยมีการขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การเร่งสร้างความมั่งคั่ง
นอกจากนี้ อาร์โนลด์ ยังได้ชี้ถึงข้อมูลจาก McKinsey & Company ในปี 2022 ได้ชี้ว่าสินทรัพย์ภายใต้การดูแล (AUM) ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยนั้นเติบโต 10% ต่อปีนั้นยังเป็นโอกาสของ BNP Paribas ที่จะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย
อาร์โนลด์ชี้ว่าการเปิดธุรกิจ Wealth Management ในไทยเป็นเหมือนพันธสัญญา (Commitment) ระยะยาวกับประเทศไทย ต่อยอดจากการได้ใบอนุญาตทำกิจการธนาคารต่างชาติในไทย และเขายังมองว่าในประเทศไทยนั้นธุรกิจบริหารความมั่งคั่งนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นแนวบูทีค แตกต่างกับ BNP Paribas ที่เป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ที่ลงมาเปิดธุรกิจในประเทศไทยเต็มตัว
สำหรับกลยุทธ์ในการบริการลูกค้าของ BNP Paribas Wealth Management ในประเทศไทยจะมีสำนักงานซึ่งมีพนักงาน Relationship Manager ห้บริการลูกค้าในปัจจุบัน 10 คน (ซึ่งรวมถึงพนักงานคนไทยที่อยู่ในสำนักงานที่ประเทศสิงคโปร์บางส่วน) โดยสถาบันการเงินจากฝรั่งเศสรายนี้ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของการนำองค์ความรู้จากทวีปยุโรปในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพอร์ตการลงทุน หรือแม้แต่การส่งต่อความมั่งคั่ง และการจัดการด้านภาษีให้กับลูกค้าชาวไทยได้
อาร์โนลด์ยังกล่าวเสริมว่า จะมีการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลของ BNP Paribas Wealth Management ที่สิงคโปร์มาให้บริการกับลูกค้าชาวไทยด้วย ซึ่งรวมถึงการแนะนำการลงทุนไปยังต่างประเทศ และเขาชี้ว่าการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ และยังเป็นการลดความเสี่ยงในด้านการลงทุนระยะยาวของลูกค้าด้วย
เป้าหมายของ BNP Paribas Wealth Management ในประเทศไทยในช่วง 3 ปีหลังจากนี้คือมีการจ้าง Relationship Manager เพิ่มขึ้น 3 เท่า สำหรับลูกค้าที่จะเปิดบัญชีนั้นจะต้องมีสินทรัพย์อย่างน้อย 3 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นอย่างน้อย