KBank ชูโซลูชันมากกว่าการเงิน ช่วยผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านด้านสิ่งแวดล้อม เชื่อคนไทยชนะในเกมนี้ได้


หนึ่งในความท้าทายของผู้ประกอบการไทยหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือเล็กที่ต้องเจอคือหลายประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยทั้ง สหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมถึงประเทศจีน ได้ออกมาตรการทางการค้าที่อิงหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ….. ของไทยที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา กำหนดให้ภาคธุรกิจต้องวัดผลและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (MRV) มาตรการจำกัดสิทธิผู้ประกอบการเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Cap and Trade) มาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสินค้าภาคอุตสาหกรรม (Carbon Tax) รวมถึงการทำธุรกรรมเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจในวงกว้าง

ผู้ประกอบการที่ปรับตัวไม่ทันกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ย่อมมีความเสี่ยงที่จะต้องมีต้นทุนในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัจจัยกดดันภาคธุรกิจเหล่านี้กำลังเพิ่มขึ้น และจะทำให้สมการธุรกิจเปลี่ยนไป มูลค่าของธุรกิจจากรายได้ธุรกิจแบบดั้งเดิม จะถูกลดทอนด้วยปัจจัยเชิงลบที่ธุรกิจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากการทำธุรกิจที่ได้ปัจจัยบวกด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวได้ว่า โลกธุรกิจกำลังเข้าสู่ยุค Climate Game แล้ว

Positioning จะพาไปฟังผู้บริหารของธนาคารกสิกรไทย เล่าถึงประเด็นดังกล่าว และสะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินธุรกิจบนหลักการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องจำเป็นที่ภาคธุรกิจจะต้องตระหนักและลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง เพื่อปรับตัวให้ได้ และก้าวทันในเกมนี้

คุณพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ได้ชี้ถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมว่า ถ้าหากถึงปี 2050 อุณหภูมิโลกได้เพิ่มขึ้นไปถึง 3.2 องศา ซึ่งเกินความตกลง Paris ในการควบคุมอุณภูมิโลก นั้นเราอาจจะได้เห็นตัวเลขความเสียหายของเศรษฐกิจโลกมูลค่ากว่า 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18% ของ GDP โลก

กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยังชี้ให้เห็นเป็นการเปรียบเทียบว่าการแพร่ระบาดของโควิดนั้น GDP ของโลกได้รับผลกระทบแค่ 3% เท่านั้น ซึ่งถ้าหากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นไปในระดับดังกล่าว ก็จะสร้างผลกระทบมากมายมหาศาลกว่าที่เราคิด

สำหรับผลกระทบดังกล่าวต่อประเทศไทยนั้น คุณพิพิธได้ชี้ว่าเรื่องดังกล่าวกระทบต่อ 44% ของ GDP ไทย คิดเป็นเงิน 218,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 7.9 ล้านล้านบาทเป็นอย่างน้อย โดยอุตสาหกรรมส่งออกของประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผ่านการคาดการณ์เม็ดเงินที่หายไปราว 1.14 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 40-50% ของมูลค่าการส่งออกในประเทศไทย

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ปรับตัวไม่ได้ในการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ความยั่งยืนจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะต้นทุนของสินค้าจากการเก็บภาษีของประเทศต่างๆ ที่กล่าวไปในข้างต้น และในท้ายที่สุดสินค้าของผู้ประกอบการไทยรายนั้นก็อาจไม่สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนตัวเองโดยเน้นความยั่งยืนได้

คุณพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

ธนาคารทำอะไรไปแล้วบ้าง

คุณพิพิธ ยังได้เล่าให้ฟังว่า คงจะเป็นเรื่องแปลกไม่น้อย ถ้าหากธนาคารนั้นพยายามที่จะให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืน แต่ตัวธนาคารเองกลับไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ปรับตัวเพื่อเข้าสู่ความยั่งยืนเริ่มจากในส่วนของการดำเนินการของธนาคารเองไม่ว่าจะเป็น การติดตั้ง Solar Cell ที่อาคารหลักของธนาคารครบ 100%

การเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ธุรกิจธนาคารจากรถยนต์สันดาปเป็นรถไฟฟ้า รวมทั้งการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

นอกจากนั้น ธนาคารกสิกรไทย ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียน Carbon Neutral โดย อบก. ว่าเป็นกลางทางคาร์บอน 6 ปี ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018-2023 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของธนาคาร และธนาคารยังเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นจะยกระดับมาตรฐานขึ้นไปได้อีก และยังสร้าง Impact ที่วัดผลได้จริง


เตรียมปล่อยสินเชื่อมากกว่าเป้าที่วางไว้

คุณพิพิธ ยังได้กล่าวว่าธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนไปแล้ว 73,397 ล้านบาท โดยใน 2 ปี ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลักที่ธนาคารได้ให้ความสำคัญในการควบคุมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอย่างใกล้ชิด โดยมีการวางแผนกลยุทธ์รายอุตสาหกรรมแล้ว 5 อุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต้นน้ำ กลุ่มเหมืองถ่านหินประเภทเชื้อเพลิงให้ความร้อน กลุ่มซีเมนต์ และกลุ่มอะลูมิเนียม

นอกจากนี้คุณพิพิธยังได้กล่าวถึงว่าในการปล่อยสินเชื่อธนาคารมีคณะกรรมการตรวจสอบว่าสินเชื่อดังกล่าวที่ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนนั้นเกิดขึ้นจริง ทำได้จริง และป้องกันสิ่งที่เกิดว่า “การฟอกเขียว”

ทั้งนี้ เป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนในปี 2024 นี้ จะมียอดรวมอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของเป้าหมายรวม 200,000 ล้านบาทภายในปี 2030

หลายประเทศมหาอำนาจเริ่มมีมาตรการจัดเก็บภาษีในสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

บริการของ KBank ที่มากกว่าด้านการเงิน

อย่างที่เราทราบดีกว่าธนาคารกสิกรไทยถือเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ของประเทศไทย แต่สำหรับการช่วยเหลือให้บรรดาผู้ประกอบการสามารถก้าวผ่านไปสู่ความยั่งยืนได้นั้น คุณพิพิธ ชี้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องของการปล่อยสินเชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ด้วยการวางยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารกสิกรไทยนั้นมีเป้าหมายสำคัญคือการพาธุรกิจไทยและเศรษฐกิจไทยเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกธุรกิจรูปแบบใหม่  ที่ผู้ประกอบธุรกิจจะสามารถปรับตัวและคว้าโอกาสในยุคของ Climate Game พร้อมทั้งวางกลยุทธ์ที่นอกเหนือจากบริการด้านการให้สินเชื่อด้วยการบูรณาการศักยภาพทั้งโซลูชัน องค์ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับการทำงานทั้งของธนาคารเองและการทำงานของลูกค้า ผ่านบริการที่มากกว่าการเงิน ได้แก่

Climate Solutions โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อม ที่เป็นมากกว่าบริการธนาคาร เพื่อช่วยธุรกิจในการปรับตัวและเปลี่ยนผ่าน ประกอบด้วย โซลูชันการส่งมอบความรู้และคำแนะนำ (Knowledge Provider) ที่บูรณาการองค์ความรู้จากสถาบันชั้นนำ การพัฒนาโซลูชันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับลูกค้าทั้งบุคคลและผู้ประกอบการ (Reduction Solution) โดยทดลองออกบริการนำร่องแล้ว ได้แก่ WATT’S UP เป็นแพลต์ฟอร์มรองรับการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร และ “ปันไฟ” (Punfai) เป็นแอปพลิเคชันที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทยและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไ ทย (กฟผ.) พัฒนาแอปพลิเคชันแลกเปลี่ยนไฟฟ้าแห่งแรกของไทยที่ตอบโจทย์การใช้งานครบทุกมิติ รองรับการใช้งานทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ธนาคารนำประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการวัด Carbon Footprint ของธนาคาร มาใช้เพื่อเตรียมพัฒนาโซลูชันใหม่ที่จะช่วยผู้ประกอบการเรื่องการวัดผล รายงาน และตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon MRV) ให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล

Carbon Ecosystem การเชื่อมต่อ Carbon Ecosystem และเข้าไปศึกษาเตรียมพร้อม เพื่อการพัฒนาบริการไปอีกขั้น ในธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับคาร์บอนเครดิต รองรับเครือข่ายผู้ใช้งานในอนาคต โดยมีการดำเนินการนำร่อง เปิดตัวแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนและขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และ Innopower เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็ อป ขึ้นทะเบียนและขายใบรับรอง REC ได้ รวมถึงธนาคารได้ศึกษาและเตรียมแนวทางในมิติอื่น ๆ ของระบบนิเวศด้านคาร์บอนเครดิต เช่น การเป็นตัวแทนซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Broker / Dealer) การออกโทเคนคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Tokenization)

สำหรับบริษัทใหญ่ๆ ในด้านการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนนั้น คุณพิพิธ ไม่ค่อยเป็นห่วงมากเท่าไหร่นัก แต่ผู้บริหารของ KBank ได้กล่าวว่า ลูกค้า SME รับรู้ในเรื่องดังกล่าวน้อยมาก ถึงแม้บางรายจะรับรู้แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เช่น ส่งออกไปยุโรปต้องกรอกแบบฟอร์ม ทุกคนก็สงสัย เลยติดต่อมาที่ธนาคาร และเขายังชี้ว่าถ้าหากธุรกิจใหญ่ รวมถึงธุรกิจขนาดกลางเป็นหัวหอกหลักแล้ว ก็จะช่วยในการดึงธุรกิจขนาดเล็กให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้

ลูกค้าคาดหวังกับธนาคารมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความยั่งยืน

Now Or Never ทำตอนนี้ยังไงไม่สายเกินไปแน่นอน

เราจะเห็นว่า Climate Game เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความท้าทายรอทุกคนอยู่ข้างหน้า ซึ่งหากทุกคนตระหนักถึงความสำคัญ ของการเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนี้คุณพิพิธ ยังชี้ว่าเรื่องดังกล่าวยังทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องอาศัยพลังจากทุกคน จับมือทำไปด้วยกัน จึงจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง

ถ้าหากภาคธุรกิจรายใดยังมีข้อสงสัยในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ความยั่งยืน ธนาคารมีการจัดงานสัมมนาเพื่อธุรกิจ ทั้งงานเฉพาะกลุ่ม ไปจนถึงงานฟอรั่มขนาดใหญ่ประจำปี อาทิ งาน “EARTH JUMP 2024” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด The Edge of Action เพราะเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ธุรกิจต้องลงมือทำทันที

กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยังชี้ว่าธุรกิจที่ปรับตัวและลงมือทำก่อนก็จะมีโอกาสช่วงชิงความได้เปรียบในการแข่งขันบนโลกธุรกิจยุคใหม่ และเขาเชื่อว่าคนไทยจะสามารถชนะในเกมดังกล่าวนี้ได้

โดยสำหรับงาน EARTH JUMP 2024 นี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้เทรนด์และความรู้มุมมองใหม่ๆ ครบทุกมิติในงานเดียว ในวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 ณ สามย่านมิตรทาวน์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และซื้อบัตรร่วมงานได้ที่ Zip Event คลิก https://www.kasikornbank.com/k_3IgdPWE