สององค์กรหัวใจไทย บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด และ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด ร่วมกันเผยความสำเร็จของการรุกตลาดชามูลค่าหมื่นล้านบาท ต่อยอดผลิตภัณฑ์จากเชียงรายสู่เมืองน่านกับแคมเปญ ‘ชาอัสสัมพันธุ์ไทยน่าน’ กระแสตอบรับดีเกินคาด หลังจากเปิดตัวเพียง 1 เดือน สามารถปั้นยอดขายเติบโตกว่า 20% ด้วยงบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นขยายฐานตลาดชาพรีเมียม แมส เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ดื่มกาแฟ พร้อมร่วมกันส่งเสริมชาอัสสัมจาก จ.น่านให้เป็นที่รู้จัก สานต่อความมุ่งมั่นในการสนับสนุนชุมชน สร้างอาชีพให้เกษตรกร ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อมและรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
ชา” เป็นตลาดที่เติบโตและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากรายงานของ Spherical Insights บริษัทวิจัยด้านการตลาดชื่อดัง เปิดเผยว่า “ตลาดชา” ทั่วโลกในปี 2566 มีมูลค่า 49.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2566 – 2576 ตลาดชาทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 7.09% ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 98.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2576 ซึ่งในด้านการบริโภคนั้น สถาบันชาและกาแฟ แห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีการประเมินว่าภายในปี 2568 วัฒนธรรมการดื่มชานอกบ้านจะสูงขึ้น 5% และจะมีปริมาณชาเพิ่มขึ้นเป็น 7.4 พันล้านกิโลกรัมในปีเดียวกัน ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบริโภคและมีมูลค่าตลาดสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยในปี 2565 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 13,299 ล้านบาท
คุณอนันต์ รัตนมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดชามีการขยายตัวขึ้นทุกปี ทั้งจากเทรนด์รักสุขภาพและกระแสความนิยมของผู้บริโภค พันธุ์ไทยมองเห็นโอกาสหลังจากประสบความสำเร็จกับแคมเปญ ‘อร่อย เวรี มัทฉะ’ ที่พันธุ์ไทยพัฒนาสูตรชาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชาตัวจริงอย่าง สิงห์ปาร์ค นำสุดยอดชา มารุเซ็น มัทฉะ พรีเมียม จ.เชียงราย มาพัฒนาเมนูมัทฉะตามแบบฉบับของพันธุ์ไทย ซึ่งได้รับความนิยมจนมีกระแสเรียกร้องให้นำมาบรรจุเป็นเมนูถาวร เราจึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู่การเปิดตัว ‘ชาอัสสัมพันธุ์ไทยน่าน’ ชาดำสายพันธุ์อัสสัมที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นจาก จ.น่าน มีกลิ่นหอมชาคั่วและมีรสชาติเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การดื่มด่ำชาพรีเมียมในราคาเข้าถึงง่าย ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่ดื่มกาแฟแล้ว ยังสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้บริการร้านพันธุ์ไทยให้เปิดใจทดลองอีกด้วย”
คุณพรประภา ชัยโตษะ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เปิดเผยว่า “ชาน่าน หรือ ชาแห่งสายหมอก ชาคุณภาพที่ปลูกในภูมิประเทศที่มีเทือกเขาวางตัวในแนวเหนือใต้ มีสภาพภูมิอากาศเย็นชื้น และมีฝนตกสม่ำเสมอ ดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ชาอัสสัมมีคุณลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร คงความเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นและรสชาติของอารยธรรมแห่งชาป่าสืบเนื่องมานานกว่า 100 ปี ชาน่านได้รับการปลูกและดูแลโดยเกษตรกรไทย พิถีพิถันเก็บเพียง 5 ใบแรกของยอดชา เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ส่งตรงถึงโรงงานแปรรูปชาอัสสัมแห่งแรกและแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดใน จ.น่าน เพื่อรักษาคุณภาพคงความสดใหม่ของใบชาให้มากที่สุด พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตและแปรรูปที่ทันสมัย ก่อนจะนำมาเบลนด์เป็นสูตรเฉพาะของพันธุ์ไทย และครีเอทเมนูใหม่พร้อมเสิร์ฟความหอมอร่อยถึงมือลูกค้า”
“ความร่วมมือกับพันธุ์ไทยนี้เป็นการดึงจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่ชัดเจน มาต่อยอด เพิ่มคุณค่าและส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในหลากหลายมิติ นับเป็นการดำเนินงานที่ผสานกันอย่างลงตัว ด้วยอุดมการณ์และจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนด้วยการส่งเสริมวัตถุดิบท้องถิ่น สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย ไปพร้อมๆ กับการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดโครงการส่งเสริมการปลูกชาของชุมชนในพื้นที่ จ.น่าน โดยการให้องค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกชาให้ได้คุณภาพ ส่งผลให้การบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า และการทำไร่เลื่อนลอยมีปริมาณลดลง เนื่องจากการปลูกชาอัสสัมต้องอาศัยร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ผืนป่า รักษาธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน” คุณพรประภา กล่าวเสริม
นอกจากนี้ พันธุ์ไทยยังประกาศการรุกตลาดชาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างปรากฎการณ์ “คนพันธุ์TEA ที่พันธุ์ไทย” ผ่านเทคโนโลยี CGI ในรูปแบบ Hyper Realistic VDO ด้วยภาพผู้หญิงไซส์ยักษ์ใหญ่ นั่งจิบชาโชว์ความสดชื่นอยู่บนร้านกาแฟพันธุ์ไทย มีการสื่อสารทั้ง Online ผ่าน Social Media ต่างๆ และ Offline ผ่าน Digital Billboard ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และสร้างการรับรู้ว่าพันธุ์ไทยจริงจังกับการรุกตลาดชาครั้งนี้ อีกทั้งแบรนด์ยังสร้างการรับรู้ผ่าน Influencer และ KOL ทั้ง Mega, Micro และ Nano ทั้งสายกิน สายเที่ยว สายไลฟ์สไตล์ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากสิงห์ ปาร์ค เชียงรายในการร่วมงานกับ คุณเชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นักแสดง เซเลบริตี้ และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้มีความผูกพันกับเมืองน่าน มาบอกเล่าเรื่องราวของชาน่านให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
พันธุ์ไทย ชวนสัมผัสความหอมละมุน ดื่มด่ำรสชาติสุดพรีเมียมกับ “ชาอัสสัมพันธุ์ไทยน่าน” ที่พันธุ์ไทยชงสดทุกแก้ว เพื่อดึง Taste Note ที่โดดเด่น แบบ Nutty Tone ซึ่งเป็นกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของชาอัสสัมออกมาได้ชัดที่สุด ดื่มแล้วได้ After Taste ที่สะอาด สดชื่น พันธุ์ไทยจึงนำมาสร้างสรรค์หลากหลายความอร่อย สดชื่นถึง 6 เมนู 6 คาแรคเตอร์ พร้อมเสิร์ฟในราคาเริ่มต้นเพียง 45.-
• ชาอัสสัมออริจินอลร้อน (Authentic Assam Tea) 45.- ดื่มด่ำรสชาติสุดคลาสสิค หอมกลิ่นชาคั่ว
• ชาอัสสัมน้ำผึ้งมะนาวร้อน (Harmony Honey Lime Assam Tea) 55.- ชาดำเข้มข้น หวานอมเปรี้ยวด้วย น้ำผึ้ง มะนาว ชุ่มคอ
• ชาอัสสัมเบอร์รี (Berry Bliss Assam Tea) 70.- หวานนิดเปรี้ยวหน่อย อร่อยฉ่ำไปกับเนื้อสตรอว์เบอร์รีและมัลเบอร์รี
• ชาอัสสัมยูซุ (Yuzu Youthful Assam Tea) 70.- รีเฟรชความสดใสด้วยส้มยูซุ หวานซ่อนเปรี้ยว
• ชาอัสสัมพีช (Peach Passion Assam Tea) 70.- สดชื่นไปกับพีช เปรี้ยวอมหวาน หอมละมุน
• ชาอัสสัมบ๊วยมะนาว (Plum-Lime Lush Assam Tea) 70.- ความลงตัวของบ๊วยและมะนาว ครบรส อร่อยลงตัว
เพราะพันธุ์ไทย ไม่ได้มีดีแค่กาแฟ มาดื่มด่ำกับรสชาติแห่งสายหมอก สัมผัสความหอมละมุนไปกับหลากหลายเมนูชาอัสสัมสุดพรีเมียมที่ปลูกโดยเกษตรกรไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองน่าน ที่ร้านพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศที่ร่วมรายการ และบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/punthaicoffee หรือ www.punthaicoffee.com