ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผู้นำด้าน “InsurTech” ดำเนินธุรกิจด้านประกันวินาศภัย พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันภัยอย่างต่อเนื่อง มานานกว่า 72 ปี มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ หวังสร้างหลักประกันที่มั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีกว่าเดิม ภายใต้หลักแนวคิด “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” เพื่อเติมเต็มชีวิตและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า
ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เป็นประกันภัยเจ้าแรกที่ออกแผนประกันรถเปิดปิด โดยนำเทคโนโลยี IOT มาใช้ในการคำนวณค่าเบี้ยประกันตามการใช้งานจริง ที่แฟร์ต่อผู้บริโภค มีประกันสุขภาพ Active Health ยิ่งออกกำลังกาย เบี้ยยิ่งลด ประกันเดินทางเปิดปิด ยืดหยุ่นทุกทริปการเดินทาง จ่ายค่าเบี้ยตามวันเดินทางจริง และยังเป็นผู้นำ AI Solution เข้ามาเพื่อตอบโจทย์และบริการลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ไทยวิวัฒน์ ร่วมเป็นหนึ่งใน Showcase งาน AI Solution 2024 นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทย มีโอกาสในการเติบโตด้านเทคโนโลยีเอไออย่างมาก โดยเฉพาะในธุรกิจประกันภัย ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ตั้งแต่ การซื้อ Purchase การใช้งาน (Usage) และการเคลม (Claim) มาซัพพอร์ตในแต่ละขึ้นตอน
ด้วยความต้องการให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยมากขึ้น จากอัตราส่วนการเปรียบเทียบการเข้าถึงการประกันภัยของคนไทยมีเพียง 1-2% ของจีดีพี หากเทียบกับประเทศชั้นนำที่มีอัตราการเข้าถึงสูงถึง 10-20% ยังมีโอกาสที่จะทำให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลในการนำ เทคโนโลยีด้าน AI เข้ามาพัฒนาโปรดักซ์ให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค (AI Solution) และความต้องการของผู้บริโภครายบุคคล (Personolized) จึงมีการก่อตั้งบริษัท MARS DeepTech Start up ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เข้ามาพัฒนาโปรดักซ์โดยเฉพาะ
ยกตัวอย่าง การนำเทคโนโลยีมาใช้ในโปรดักต์ประกันรถยนต์ อย่าง “ประกันรถเปิดปิด” ที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อประกันภัยมากขึ้น ช่วยผู้ซื้อประกันรถยนต์ ลดเบี้ยประกันลงได้สูงสุดถึง 80% โดยการนำ Computer Vision และ Deep Learning มาใช้ตรวจสภาพรถก่อนการทำประกัน และเมื่อมีการเคลมสามารถทำ Deep Vision ทำให้การซ่อมรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถวิเคราะห์ชิ้นส่วนรถยนต์ แปลงรูปภาพรถยนต์นำมาวิเคราะห์ได้มากกว่า 100 ชิ้น ด้วยความแม่นยำ ทั้งคำนวณระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อม จากที่ใช้เวลา 5-10 วัน เปลี่ยนเป็นเพียง 5-10 นาที ก็สามารถสมัครประกัน ตรวจสภาพรถได้ทันที”
เหล่านี้เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจประกันภัย ที่ช่วยตอบโจทย์ทั้งการเข้าถึงผู้ซื้อประกันมากขึ้น และช่วยผู้ซื้อประกันให้มีตัวเลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลมากขึ้น และช่วยผู้ถือประกันลดค่าใช้จ่าย จากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเอไอที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายเทพพันธ์กล่าวต่อว่า จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กับประกันรถเปิดปิด ที่เป็นโปรดักต์ชูโรง ทำให้ผู้บริโภคสะดวกยิ่งขึ้น จากที่ใช้อยู่แค่กลุ่มกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ขยายไปยังทั่วประเทศ กรมธรรม์โตสามเท่าตัว อัตรการต่ออายุสูงถึง 90% จะเห็นได้ว่า AI ทำให้การบริการดีขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าก็จะเข้าถึงการใช้ได้ง่ายขึ้น ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในบริษัทยังมีการพัฒนาประกันรถเปิดปิด ทางเลือกสำหรับประกันรถ EV เพื่อให้กลุ่มคนใช้รถ EV สามารถเข้าถึงเบี้ยประกันที่คุ้มค่า และสะดวกในการใช้งาน รวมถึงการจองที่จอดรถส่วนตัวผ่านทางแอปพลิเคชัน ร่วมกับศูนย์การค้าต่างๆ ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยที่นำ AI มาใช้ประกอบธุรกิจและประสบความสำเร็จยังคงมุ่งมั่นในการนำแนวคิดนอกกรอบเข้ามาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น