ย้อนไปช่วงเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา บริษัท Tapestry Inc. ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าลักชัวรีอย่าง Kate Spade และ Coach กำลังเข้าซื้อกิจการ Capri Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Michael Kors และ Versace ในมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 3 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวอาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เนื่องจาก คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (US Federal Trade Commission: FTC) กำลังฟ้องร้องเพื่อสกัดข้อตกลงการควบรวมกิจการของ Tapestry กับ Capri Holdings
สาเหตุที่ทำให้ FTC ยื่นฟ้องระงับการควบรวมกิจการเป็นเพราะ สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ หลายรายต้องการให้ FTC เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบดีลการควบรวมกิจการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีความเสี่ยงทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ ผู้บังคับใช้การต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ ยังได้ออกแนวทางการควบรวมกิจการใหม่ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมตลาดที่ยุติธรรม เปิดกว้าง และมีการแข่งขัน
“ข้อเสนอการควบรวมกิจการอาจส่งผลต่อการแข่งขันด้านราคา ส่วนลดและโปรโมชั่น นวัตกรรม การออกแบบ การตลาด และการโฆษณา” FTC กล่าวในแถลงการณ์
ย้อนไปเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา บริษัท Tapestry ได้เสนอซื้อ Capri โดยหวังว่าจะต่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่ของยุโรป เช่น LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton และอาจได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นในตลาดสินค้าหรูหราระดับโลก แม้ดีลดังกล่าวจะเริ่มพูดคุยในเดือนสิงหาคม แต่แต่ FTC ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ FTC เตรียมยื่นฟ้องให้ระงับการควบรวม ทาง Capri Holdings ก็ออกมาแสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการตัดสินใจของ FTC โดยบริษัทมองว่า หน่วยงานไม่ได้มองถึง ความเป็นจริงของตลาดที่แข่งขันกันเข้มข้น และธุรกรรมนี้จะไม่ส่งผลต่อการแข่งขัน
ขณะที่ Tapestry กล่าวเสริมว่า ดีลดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่เอื้อการแข่งขันและสนับสนุนผู้บริโภค และ FTC กำลังเข้าใจผิดถึงการแข่งขันของตลาดและวิธีที่ผู้บริโภคซื้อสินค้า