สถานทูตอิตาลี เปิดศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงเทพ

  • ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีในกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีระยะสั้นทุกประเภทได้ที่ศูนย์แห่งใหม่ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 8:30-16:00 น.
  • ผู้ยื่นคำร้องยังสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าที่ทันสมัยที่เชียงใหม่และภูเก็ตอีกด้วย
  • ยังมีบริการเสริมพิเศษสำหรับนักเดินทาง เช่น การยื่นคำร้องขอวีซ่านอกสถานที่ ห้องรับรองพิเศษ การยื่นคำร้องและรับเล่มคืนนอกเวลาทำการ บริการผู้ช่วยส่วนบุคคล และบริการอื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น

เพื่อยกระดับการให้บริการยื่นคำร้องของวีซ่าประเทศอิตาลีในกรุงเทพฯ  เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ได้เปิดให้บริการศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ที่ทันสมัยในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 พร้อมกับเกาชิค กอช หัวหน้าฝ่ายออสตราเลเชียวีเอฟเอสโกลบอล

29 เมษายน 2567:ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีในกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีระยะสั้นทุกประเภทได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 8:30-16:00 น. โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าทางออนไลน์หรือเข้ายื่นคำร้องที่ศูนย์ตามลำดับก่อนหลัง นอกจากสถานที่แห่งใหม่อันกว้างขวางแล้ว นักเดินทางยังสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าได้ที่ศูนย์รับคำร้องฯ ที่เชียงใหม่และภูเก็ตด้วย

วีเอฟเอสโกลบอลยังเปิดให้บริการศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตามข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกับสถานทูตอิตาลีในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาด้วย โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณัฐอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยและกัมพูชาเป็นประเทศสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนสำหรับอิตาลี ดังนั้นเราจึงตั้งใจปรับปรุงระเบียบและขั้นตอนสำหรับนักเดินทางให้ทุกอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VAC) แห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมและอยู่ใกล้ศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ยื่นคำร้องได้รับความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมในการเตรียมตัวมาเยือนประเทศอิตาลี ขั้นตอนด้านวีซ่ามีความสำคัญกับเราอย่างมาก เพราะเสมือนเป็นประตูหน้าบ้านที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนประเทศ ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับวีเอฟเอสโกลบอลเพื่อปรับปรุงและยกระดับบริการต่างๆ ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด”

สถานที่แห่งใหม่มีความกว้างขวางเพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมากมาย ทั้งยังมีฝ่ายบริการลูกค้าที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าในทุกขั้นตอน และเพื่อให้ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น ศูนย์บริการลูกค้าของเรายังพร้อมให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 8:30-17:30 น. เช่น การแช็ตผ่านคลิกทูทอล์ก อีเมล และแช็ตบ็อต

นายเกาชิค กอช หัวหน้าฝ่ายออสตราเลเชียวีเอฟเอสโกลบอล กล่าวว่า “วีเอฟเอสโกลบอลมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิตาลีมายาวนานนับตั้งแต่ปี 2547 เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือเพิ่มเติมในครั้งนี้ ศูนย์ยื่นคำร้องแห่งใหม่ที่ทันสมัยในกรุงเทพฯ และอีกสองแห่งที่เชียงใหม่และภูเก็ตมีบทบาทสำคัญในการรองรับจำนวนนักเดินทางไปประเทศอิตาลีที่เพิ่มขึ้นเพราะประเทศอิตาลีเป็นหนึ่งในปลายทางยอดนิยมระดับโลก  นอกจากนี้เรายังเปิดศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีแห่งใหม่ที่กรุงพนมเปญเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ยื่นคำร้องในประเทศกัมพูชาอีกด้วย เราเชื่อมั่นว่าศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าเหล่านี้จะยกระดับความสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้รับในการยื่นคำร้องขอวีซ่า และช่วยให้เราดูแลนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น”

ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่ายังขอรับบริการเสริมเพื่อความสะดวกในการยื่นคำร้องผ่านบริการต่างๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริการยื่นคำร้องขอวีซ่านอกสถานที่ ทั้งที่บ้านหรือที่สำนักงานโดยไม่ต้องเดินทาง บริการห้องรับรองพิเศษที่พร้อมมอบความสะดวกและบริการส่วนบุคคลแบบพิเศษในการยื่นคำร้องที่ศูนย์ฯ รวมถึงบริการยื่นคำร้องนอกเวลาทำการที่ให้ความสะดวกในการยื่นคำร้องและรับหนังสือเดินทางกลับคืน นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริการจัดส่งเอกสารแบบทำประกัน บริการแจ้งเตือนทาง SMS บริการผู้ช่วยส่วนบุคคล และอีกมากมาย อย่างไรก็ดีการใช้บริการพิเศษเพิ่มเติมเหล่านี้ไม่ได้มีผลกับระยะเวลาหรือการพิจารณาคำร้องขอวีซ่าแต่อย่างใด

วีเอฟเอสโกลบอลเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลอิตาลีให้ดูแลกระบวนการด้านวีซ่ามาตั้งแต่ปี 2547 โดยทางบริษัทฯ ให้บริการวีซ่าในนามของประเทศอิตาลีใน 34 ประเทศ ผ่านเครือข่ายศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า 97 แห่ง

หน้าที่ของวีเอฟเอสโกลบอลในกระบวนการด้านคำร้องขอวีซ่าจำกัดอยู่เพียงแค่งานธุรการส่วนหน้าเท่านั้น เช่น การเก็บรวบรวมแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าและเอกสารประกอบการพิจารณาตามรายการที่กำหนด รวมถึงการเก็บบันทึกข้อมูลไบโอเมทริกซ์โดยทางบริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการตัดสินใจในการให้หรือปฏิเสธวีซ่าแต่อย่างใด เพราะถือเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของสถานทูตภายในระบบเชงเกนเท่านั้น

ที่ตั้งศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าในประเทศไทยและกัมพูชา

  • กรุงเทพฯ: ห้อง 322 เอ และห้อง 329 ชั้น 3 ศูนย์การค้ารีเทลเซ็นเตอร์ อาคารออล ซีซั่นเพลส เลขที่ 87/2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
  • เชียงใหม่: เลขที่ 191 อาคารศิริพานิช ชั้น 6 บี ถนนห้วยแก้ว ต. สุเทพ อ. เมือง เชียงใหม่ 50200
  • ภูเก็ต: อาคารซีซีเอ็ม คอมเพล็กซ์ เลขที่ 77/77 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ต. รัษฎา อ. เมือง ภูเก็ต 83000
  • กรุงพนมเปญ (กัมพูชา):อาคารปรินซ์ พนมเปญ ชั้น 12 ถนนพระมนีวงศ์ (St 93) หัวมุมถนนเลขที่ 232 พนมเปญ 120308

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายที่:

  • ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีในประเทศไทย: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/ita/
  • ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลีในประเทศกัมพูชา: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/ita/

เกี่ยวกับวีเอฟเอสโกลบอล

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริการเอาท์ซอร์สและเทคโนโลยีชั้นนำของโลกวีเอฟเอสโกลบอลเปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่รวมถึง Generative AI เพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและคณะผู้แทนทางการทูตทั่วโลก บริษัทช่วยจัดการงานต่างๆ ในเชิงธุรการและส่วนที่ไม่มีการใช้ดุลยพินิจแก่รัฐบาลที่เป็นลูกค้า อาทิ คำร้องขอวีซ่า หนังสือเดินทาง และบริการกงสุล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้รัฐบาลแต่ละแห่งสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับหน้าที่การประเมินอันมีความสำคัญ

ด้วยแนวทางที่มีความรับผิดชอบในการพัฒนาเทคโนโลยี การประยุกต์ใช้และการบูรณาการในการทำงาน บริษัทให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติด้านจริยธรรมและแนวทางความยั่งยืน ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลที่เป็นลูกค้า 67 แห่ง โดยมีเครือข่ายศูนย์รับคำร้องทั่วโลกรวมแล้วมากกว่า 3,300 แห่ง ใน 151ประเทศ บริษัทดำเนินการตามคำร้องอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 282ล้านรายการนับตั้งแต่เริ่มกิจการเมื่อปี 2544

ทั้งนี้วีเอฟเอสโกลบอลมีสำนักงานใหญ่ที่ซูริก สวิตเซอร์แลนด์ และดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทแบล็คสโตน ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ทางเลือกรายใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงมูลนิธิ Kuoni and HugentoblerFoundationในสวิตเซอร์แลนด์ และ EQT องค์กรด้านการลงทุนระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สตอกโฮล์ม สวีเดน  วีเอฟเอสโกลบอลมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และเป็นผู้นำในการพัฒนาโซลูชันและนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนให้บริการภาครัฐมีประสิทธิผลและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น