ท่องเที่ยวกลางแจ้ง (Outdoor) จุดแข็งใหม่ท่องเที่ยวไทย ทำธุรกิจเกี่ยวข้องขยายตัว 30%

ธุรกิจแคมป์ปิ้งยังคงมีความร้อนแรงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 30 % ประกอบกับ ททท.-เอ็น.ซี.ซี. จัดงาน “Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024” นำอุปกรณ์แคมป์ปิ้งจากแบรนด์ดังทั้งโลก จัดโปรโมชั่นพิเศษ กระตุ้นให้เกินการซื้อขาย และขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบการต่างส่งเสียงให้ภาครัฐชวนต่างชาติเที่ยวเพิ่ม สร้างจุดแข็งใหม่ท่องเที่ยวไทย

ในปัจจุบันการท่องเที่ยวกลางแจ้ง หรือ Outdoor ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยการท่องเที่ยวแบบกลางแจ้ง จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. โรงแรมรีสอร์ตแคมป์ปิ้ง หรือ แกลมปิ้ง (การตั้งแคมป์แบบหรูหรา) ที่จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้สนุกสนามผจญภัย ในขณะที่ยังมีความสะดวกสบายแบบโรงแรม เช่น กระโจมขนาดใหญ่กลางแจ้งที่ภายในเหมือนห้องพักโรงแรม และ 2. ลานกางเต็นท์ หรือแคมป์ปิ้ง ซึ่งในขณะนี้ธุรกิจแคมป์ปิ้งจะมีสัดส่วนมากกว่า เพราะมีมานานแล้ว ส่วนธุรกิจแกลมปิ้งจะรองลงมา แต่ก็มีอัตราการขยายตัวเร็วกว่าแคมป์ปิ้ง เพราะมีหลายธุรกิจที่ดัดแปลงไปสู่ธุรกิจแกลมปิ้ง เช่น คาเฟ่แนวแคมป์ปิ้ง หรือบางคนเรียกว่า คอฟฟี่แคมป์ ที่เพิ่มบริการลานกางเต็นท์ และสถานที่ถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมบริการอาหารที่หลากหลาย

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแบบแกลมปิ้ง ยังเหมาะสมกับผู้ที่เริ่มการท่องเที่ยวกลางแจ้งที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรม แต่ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งยังสามารถทำอาหาร ปิ้งย่างทานร่วมกับกลุ่มเพื่อน ๆ ซึ่งกลุ่มแกลมปิ้งขยายตัวเร็วมาก และในอนาคตคาดว่าจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกับธุรกิจแคมปิ้ง

นายวิวัฒน์ ตันพานิช (เจม) กรรมการผู้จัดการ เดอะเนเชอรัลการ์เด้น รีสอร์ท เขาสอยดาว จันทบุรี กล่าวว่า สำหรับภาวะธุรกิจท่องเที่ยวกลางแจ้งในปัจจุบันยังคงขยายตัวต่อเนื่องทั้งจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเดิมและนักท่องเที่ยวกลุ่ม ใหม่ ๆ ซึ่งเรียกว่าเป็นอัตราการเติบโตที่เสถียร ไม่หวือหวาเหมือนช่วงโควิด 19 ซึ่งตลาดจะเน้นการเที่ยวธรรมชาติที่ไม่แออัด ทำให้กระแสการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ในช่วงโควิดเติบโตดีมากหรือแบบก้าวกระโดด แต่ภายหลังเปิดประเทศหลังโควิด 19 ในปีแรก คนไทยแห่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นจำนวนมากทำให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ลดลง แต่ในปัจจุบันมีความเสถียรมากขึ้น เพราะเข้าสู่ภาวะปกติ

“ในธุรกิจการท่องเที่ยวกลางแจ้งจะขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยนักท่องเที่ยวหน้าใหม่หากได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวแนวนี้จะชอบ และจะเข้าวงการนี้เต็มที่ ทำให้การท่องเที่ยวแบบนี้มีความเสถียรและมีทริปออกเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีอุปกรณ์แคมป์ปิ้งต่าง ๆ มากมาย มีหลายแบรนด์ หลายสไตล์ ให้เลือก  นักท่องเที่ยวสามารถระบุความเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เข้ามาสนับสนุนให้สินค้าโดดเด่น และน่าสนใจมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถท่องเที่ยวแบบคนเดียว หรือเป็นแบบกลุ่มก็ได้ จึงเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาธรรมชาติมากขึ้น”

โดยในธุรกิจท่องเที่ยวกลางแจ้งของไทย มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน โดยในจุดแข่งนั้น ประเทศไทยมีความโดดเด่นในด้านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา น้ำตก ป่าไม้ และทะเล รวมทั้งธรรมชาติในแต่ละภาคก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน ทำให้รองรับนักท่องเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบ จึงทำให้ธุรกิจนี้ค่อย ๆ ขยายตัว ส่วนจุดอ่อนจะเป็นเรื่องอากาศร้อน จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวมากที่สุด รองลงมาเป็นฤดูฝน ซึ่งแม้ว่าจะกระทบต่อการกางเต็นท์ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ชอบหน้าฝน เพราะเป็นช่วงที่ธรรมชาติเขียวขจีมีความงดงามมากที่สุด และมีทะเลหมอก ส่วนในฤดูร้อนนักท่องเที่ยวจะลดลงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวกลางแจ้งในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะประเทศ ไทยมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่แข็งแกร่ง ซึ่งหากภาครัฐให้กับสนับสนุนอย่างเต็มที่ คาดว่าจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นได้อีกไม่ต่ำกว่า 30% ทำให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และยังเป็นการขยายตลาดการท่องเที่ยวแบบใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทุกประเภท

ส่วนการแข่งขันในธุรกิจนี้ จะมีความแตกต่างในแต่ละพื้นที่ หากเป็นภาคเหนือก็มีการแข่งขันกันมาก ในขณะที่ภาคตะวันออกจะเป็นลักษณะรีสอร์ตติดทะเลการแข่งขันยังไม่มาก รวมทั้งภาคใต้ และภาคอื่น ๆ ก็ยังมีการแข่งขันน้อย สำหรับจุดที่ผู้ประกอบการจะนำมาแข่งขัน จะเป็นเรื่องความสะดวกสบายของที่พัก มีห้องน้ำดี มีจุดถ่ายรูปที่สวย อาหารดี คุ้มค่ากับที่จ่ายออกไป รวมทั้งเน้นการบริการให้ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยมีความสะดวกสบายมากที่สุด

“นักท่องเที่ยวในตลาดนี้ ส่วนใหญ่ชอบความเรียบง่าย จึงเหมาะกับการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่นทั้งไทยและต่างประเทศ ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อก็มีมากขึ้น และจะมาท่องเที่ยวแบบครอบครัว ซึ่งจะใช้สินค้าราคาแพง เช่น เต็นท์ และอุปกรณ์ และคนกลุ่มนี้จะเหนียวแน่น หากมีเวลาก็จะออกตั้งแคมป์ทันที และจะทดลองใช้อุปกรณ์ใหม่อย่างสม่ำเสมอ”

หากใครที่สนใจอยากสำรวจตลาดแคมป์ปิ้ง Outdoor อย่างใกล้ชิด “เจม” ขอเชิญชวนว่า สามารถเข้าชมได้ภายในงาน “OUTDOOR Fest 2024” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวชมงานได้ด้วยความสะดวก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวในรูปแบบของแคมป์ปิ้ง เพื่อเปิดประสบการณ์พิเศษในแบบฉบับของตัวเอง ความพิเศษอีกอย่างที่อยากเชิญชวนมาในงานคือ ในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาของสินค้าใหม่ ๆ ที่จะออกสู่ตลาด เพื่อต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว แคมป์ปิ้ง Outdoor ปลายฝนต้นหนาว พร้อมทั้งการจัดโปรโมชั่นพิเศษที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสินค้าเดิมที่จะนำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน โดยจัดงานพร้อมกับอีก 2 งาน ได้แก่ “Thailand Dive Expo 2024” มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำครบวงจร (TDEX) และงาน “Thailand Golf Expo 2024” งานแสดงสินค้าและบริการสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ

“Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024”  จัดขึ้นโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยเป็นการรวม 3 งานแสดงสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการท่องเที่ยว ทั้งด้านกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และท่องเที่ยวแนวกิจกรรมกลางแจ้ง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยภายในงานจะมีสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวจากกลุ่มผู้ประกอบการที่พร้อมนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่และแพ็กเกจต่าง ๆ พร้อมส่วนลดสูงสุดกว่า 80%

ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมและดูรายละเอียดได้ดังนี้

  1. กิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้งOutdoor Fest

Facebook: Traveler & Outdoor Expo หรือ www.traveloutdoorexpo.com

  1. งานแสดงสินค้าและบริการสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ

Facebook: Thailand Golf Expo หรือ www.ThailandGolfExpo.com

  1. มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำครบวงจร (TDEX)

Facebook: Thailand Dive Expo (TDEX)  หรือ www.ThailandDiveExpo.com

ลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า ได้ที่ https://eventpassinsight.co/el/to/ncc2405