‘บมจ.ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ TAN’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่ อง มีรายได้จากการขายและบริการรวม 458 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่ อน ขณะที่กำไรขั้นต้นทำได้ 307 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 67% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) และมีกำไรสุทธิส่วนของกลุ่มบริ ษัทฯ 60.4 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน (YoY) โดยมาจากการเติ บโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) การขยายสาขาหน้าร้าน (Concept Store) และการตอบรับที่ดีของแบรนด์ใหม่ ในพอร์ต มั่นใจผลการดำเนินงานปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง ชูกลยุทธ์ขยายธุรกิจสินค้าแฟชั่ นและร้านอาหาร ควบคู่กับการรุกตลาดต่างประเทศ ปักธงดันรายได้เติบโตทะลุ 20% ตามเป้า
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิ ตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ลักซ์ชัวรีระดั บโลก เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 (มกราคม-มีนาคม) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน ขณะที่มีกำไรขั้นต้นทำได้ 307 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 67% โดยความสำเร็จดังกล่ าวมาจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามเป้า และรายได้จากการการขยายสาขาใหม่ สร้างผลตอบแทนได้ดี รวมทั้งการเพิ่มแบรนด์ใหม่ที่มี ศักยภาพเติบโตสูงเข้ามาเสริ มแกร่งพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มบริษั ทฯ การขยายธุรกิจสู่กลุ่มธุรกิ จอาหารและเครื่องดื่ม ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี จากกลุ่มลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไร ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงสุ ดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ และเป็นอัตราเติบโตที่มากกว่าค่ าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค้าปลี กในประเทศ ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของกลุ่มบริ ษัทฯ ทำได้ 60.4 ล้านบาท 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกั นของปีก่อน (YoY)
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้เติบโต 20% โดยมาจากการเติ บโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) 10% และการเพิ่มขึ้นของรายได้ จากการขยายสาขาใหม่ทั้ งในประเทศและต่างประเทศ 10% โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่ มแฟชั่นและกลุ่มธุรกิ จอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีผลตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง และมีความสามารถในการสร้างอั ตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ดีให้แก่กลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งมีศักยภาพเติบโตสูง ควบคู่กับการขยายธุรกิจในต่ างประเทศ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตให้ แก่ทุกกลุ่มธุรกิจ ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดกั บกลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายสาขาและปรับปรุงสาขาอย่ างต่อเนื่อง โดยมีแผนการสร้างการเติบโตในแต่ ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ 1) กลุ่มธุรกิจแฟชั่น (Fashion) นำโดยแบรนด์ Marimekko ที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้เปิดสโตร์ GANNI แห่งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ สร้างปรากฎการณ์แฟชั่นเหนือระดั บผ่านแฟชั่นไอเท็มที่มี ความหลากหลาย และสะท้อนความเป็นตัวตน ณ Central Embassy ซึ่งได้รับการตอบรั บจากกลุ่มลูกค้าอย่างดี โดยเตรียมขยายสาขาเพิ่มในไตรมาส 3/2567 บนทำเลศักยภาพที่ศูนย์การค้ าใจกลางเมือง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักของ TAN ในการเลือกโลเคชั่น รวมทั้ง เปิดตัวร้านมัลติแบรนด์ (Multi-brand store) UNITED ARROWS ในเดือนมิถุนายนที่ THE EMSPHERE เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจในกลุ่ มแฟชั่น และขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งสัดส่วนจะขยายไปยังกลุ่มผู้ ชายแนวสตรีทแฟชั่น โดยถือเป็นเทรนด์ที่น่าจั บตามองและมีดีมานด์ขยายตัวอย่ างต่อเนื่อง
2) กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีแบรนด์ Pandora เป็นแบรนด์เรือธง ซึ่งเติบโตโดดเด่นสะท้อนถึ งความสำเร็จของกลุ่มบริษั ทในการส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุ ดของแบรนด์ต่างๆ ให้กับลูกกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้เปิดร้าน Concept Store ของแบรนด์ Pandora ณ ชั้น M The Mall Lifestore Bangkapi และปรับปรุงร้าน Shop in Shop ของแบรนด์ Cath Kidston ที่ Siam Paragon 3) กลุ่มธุรกิจความงามและสุขภาพ (Beauty & Wellness) กลุ่มบริษัทฯ ปรับโฉม HARNN Shop In Shop ณ ชั้น 4 ดิ เอ็มโพเรี่ยม รวมถึง เปิด THE SPA by HARNN หนึ่งในแบรนด์สปา ของกลุ่มธุกิจ HARNN Wellness & Hospitality ณ รีสอร์ตสุดหรู ANA InterContinental Appi Kogen Resort ประเทศญี่ปุ่น และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล สุขุมวิท ประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “Harnn Greater China” ซึ่งร่วมทุนกับพันธมิตร Richarm เตรียมส่งออกผลิตภัณฑ์ แบรนด์ HARNN ไปยังประเทศจีน ภายในไตรมาส 3/2567 4) กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) กลุ่มบริษัทฯ ได้เปิดร้านอาหารเพิ่ม 2 สาขาคือ Cath Kidston Tea Room ณ The Mall Lifestore Bangkapi, และร้าน Gordon Ramsay Street Pizza ที่ชั้น GM, THE EMSPHERE โดยได้รับการตอบรับอย่ างดีจากกลุ่มลูกค้า
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TAN กล่าวเพิ่มว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกยั งคงทรงตัว จากการยังไม่ฟื้นตัวของเศรษฐกิ จส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัว ผู้บริโภคมีภาระค่าครองชีพที่ ปรับตัวขึ้นและยังไม่มี มาตรการใหม่ที่กระตุ้นการจับจ่ ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตั วในบางภาคธุรกิจ เช่น การท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในไทย 9.3 ล้านคนในช่วงไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 44 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน หนุนยอดขายร้านอาหาร และสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์เติบโต โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้ นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากการที่รัฐบาลมี แผนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิ จเพิ่มเติม และในภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตั ว จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาไทยจะเพิ่มขึ้ นอย่างต่อเนื่อง