InnovestX แนะจัดพอร์ตการลงทุน เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นสหรัฐฯ-จีน มองเป้าหุ้นไทย 1,500 จุด จากกำไรฟื้นตัว

ภาพจาก Unsplash
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) ยังมองเป้าหมายของดัชนีหุ้นไทยที่ 1,500 จุด ยังมองว่ากำไรยังคงฟื้นตัวได้ ขณะเดียวกันก็แนะนำจัดพอร์ตการลงทุนโดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา และหุ้นจีน

InnovestX แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2024 โดยมองว่าเป้าของหุ้นไทยในปี 2024 นี้ยังอยู่ที่ 1,500 จุด จากกำไรที่ปรับฟื้นตัว ขณะเดียวกันในภาพรวมการจัดพอร์ตการลงทุนยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและตลาดหุ้นจีน

มองภาพรวมเศรษฐกิจ

ทีมนักวิเคราะห์ของ InnovestX ได้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจโลกไตรมาส 3 นี้ เห็นสัญญาณฟื้นตัวอย่างพร้อมเพรียงกันในหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป และเอเชียที่ฟื้นตัวชัดเจน ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะแสดงสัญญาณชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป (Soft landing)

InnovestX ยังมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจโซนหลักอื่น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางยุโรปที่ปรับลดนำไปแล้วก่อนหน้า

ข้อมูลจาก InnovestX

เศรษฐกิจไทยยังต้องจับตาเรื่องการเมือง

ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งปัจจุบันเบิกจ่ายไปแล้ว 40% ของงบประมาณรวม ขณะที่รวมถึงภาคการผลิตและภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ InnovestX ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยได้ปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเข้ามาภายในไทย 35 ล้านคน และ 39 ล้านคนในปี 2025

สำหรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทย InnovestX ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2.5% ในปีนี้และ 3.0% ในปีหน้า และกรณีแย่สุดคาดว่า GDP จะเติบโตแค่ 2% ในปีนี้ และ 2.5% ในปีหน้า จากปัจจัยการเมือง และยังมองว่าต้องติดตามปัจจัยทางการเมืองอย่างใกล้ชิด

ข้อมูลจาก InnovestX

ลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังยังไงดี

มอง SET Index 1,500 จุด ให้ Earnings มองหุ้นไทยเติบโต 17-20% มองภาพว่าในไตรมาส 3 และ 4 หุ้นไทยนั้นจะมีกำไรเติบโตถึง 26% และ 36% ตามลำดับ ซึ่ง InnovestX ยังมองว่าปัจจัยบวกในครึ่งปีหลังนั้นหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

ขณะเดียวกันในการจัดพอร์ตการลงทุนแบบภาพรวม InnovestX ยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาและหุ้นจีน โดยสำหรับกรณีในประเทศจีนนั้นมีการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจมากขึ้น แต่ในภาพรวมนั้นยังชอบดัชนีหุ้นโลกมากที่สุด

เมื่อตลาดหุ้นพักฐาน InnovestX มีการปรับมุมมองการลงทุนในยุโรปและทองคำเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับคำแนะนำการลงทุนในเวียดนามลดลง สำหรับภาพลงทุนระยะกลาง – ยาว (ในช่วง 3 – 6 เดือนและ 12 เดือนขึ้นไป) แนะนำให้นักลงทุนทยอยสร้าง Core portfolio ผ่านการลงทุนในกองทุนตราสารทุนโลกอย่าง KT-GESG-A และทยอยสะสมการลงทุนตราสารหนี้โลกผ่านกองทุน KFSINCFX-A และสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มด้วยกองทุนหุ้นสหรัฐฯ อย่าง TMBUSBLUECHIP และหุ้นจีน SCBCHEQA

โดยสมมติฐานครึ่งปีหลังนั้น InnovestX มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปี 2024 นี้ และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในภาพรวม

ข้อมูลจาก InnovestX

ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงครึ่งปีหลัง

InnovestX ได้กล่าวถึงปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม ไม่ว่าเป็น การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน ความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน การเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน การเบิกจ่ายงบประมาณของไทย หรือแม้แต่ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นไทย

ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนั้นกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย หรือแม้แต่ปัจจัยในการลงทุน ถ้าหากนักลงทุนมีพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศ