‘เอกา โกลบอล’ เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจ Longevity Packaging ยกระดับ 3 ด้าน ‘คุณภาพ-นวัตกรรม-สยายปีกลงทุน’ รุกตลาดโลก

‘เอกา โกลบอล’ กางแผนขับเคลื่อนธุรกิจแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ชูหัวหอก ‘คุณภาพ-นวัตกรรม-สยายปีกลงทุน’ ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท รุกเปิดโรงงานใหม่ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย เสริมแกร่งพอร์ตสินค้าป้อนตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และ ไทย เพิ่มศักยภาพกำลังการผลิตเติบโตมากกว่า 2,850 ล้านชิ้นต่อปี ตอกย้ำหลักธุรกิจบนความยั่งยืน ผลิตแพ็กเกจจิ้งรีไซเคิล 100% และกรีนโปรดักส์ ตอบโจทย์แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดพลาสติกขึ้นรูป (Rigid Barrier Plastic Packaging) ท็อป 5 ของโลก เปิดเผยว่า การบริโภคที่ขยายตัวทั่วโลก ในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) และอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet-Food) ส่งผลให้ธุรกิจแพคเกจจิ้งมียอดขายที่เติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความสะอาดและความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมจุดเด่นของความสามารถในการรักษาคุณภาพอาหารที่จัดเก็บในอุณหภูมิปกติได้นานสูงสุดถึง 2 ปีโดยที่รสชาติไม่เปลี่ยน

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เน้นเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันใน 3 ด้านหลัก เริ่มที่การเพิ่มขีดความสามารถด้านการตลาดและขยายการลงทุนไปในตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยปัจจุบัน “เอกา โกลบอล” มีโรงงานในประเทศไทย 1 แห่ง ประเทศจีน 2 แห่ง และสำนักงานขายในอินเดีย 1 แห่งล่าสุด ขยายการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ (PUNE) ในอินเดีย อีก 1 แห่ง ซึ่งโรงงานแห่งใหม่ได้เปิดไลน์การผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์แล้วในเดือนมีนาคม 2567

“จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ในหมวดอาหารประเภทอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-To-Eat) และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม (Pet-Food) ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ บริษัทฯ จะขยายเป้าหมายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และทั่วภูมิภาคเอเชีย เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน อินเดีย และ ฟิลิปปินส์”

โดยตลาดหลักของบริษัทฯ อยู่ที่สหรัฐอเมริกา สัดส่วน 50-60% นอกจากนี้ยังมีตลาดส่งออกไปยังอีกหลายประเทศ เช่น จีน ซึ่งมีโรงงานผลิตหนึ่งแห่ง รวมถึงอินเดียที่ลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งแรก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการบริโภคอาหารภายนประเทศสูงมาก ส่งผลให้ที่ผ่านมามีเติบโตเร็วเป็น 100% ทุกปี ขณะที่ตลาดแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารในไทย มีสัดส่วนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการส่งออก โดยเติบโตที่ 5% ต่อปี

อีกจุดเด่นสำคัญของธุรกิจ “เอกา โกลบอล” อยู่ที่คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย ผ่านการลงทุนงานวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค ภายใต้มาตรฐานการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก อาทิ ISO 9001 : 2015, FSSC 22000, GMP/HACCP

ด้านนวัตกรรม และดีไซน์แพ็กเกจจิ้งเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งมอบคุณค่าไปสู่อุตสาหกรรมปลายน้ำด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ด้วยการบรรจุแบบดัดแปรบรรยากาศ (Modified Atmosphere Packaging) หรือ MAP เทคนิคการถนอมอาหาร (Food Preservation) ที่นำมาใช้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหารสด หรือ อาหารที่แปรรูปขั้นต่ำและออกแบบสินค้าให้มีน้ำหนักเบาและสะดวกแก่การขนส่งระยะทางไกล หรือ สินค้าส่งออกไปต่างประเทศ แพ็กเกจจิ้งเหมาะสำหรับซึ่งมีทั้งแบบบรรจุในถุงและพาสเจอร์ไรซ์ อาทิเช่น ขนมหวาน อาหารพร้อมรับประทาน อาหารเด็ก ผักและผลไม้ เป็นต้น รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet-Food) โดยมีรูปทรงบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและหลากหลายมากกว่า 80 แบบ

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าความสำเร็จของ “เอกา โกลบอล” มาจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เน้นการแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค และสนับสนุนผู้ประกอบการให้เติบโตสามารถส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศด้วยบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอาหารมาอย่างต่อเนื่องในการพัฒนานวัตกรรมแพ็กเกจจิ้งร่วมกัน เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีไซน์ทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ล่าสุดอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับบริษัทฯ อาหารรายใหญ่เพื่อสร้างนวัตกรรมที่เป็นครั้งแรกในโลก โดยเตรียมเปิดตัวที่ตลาดสหรัฐอเมริกา ในเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในวิถีความยั่งยืน (Sustainable Growth) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตั้งแต่กระบวนการวิจัยและพัฒนา การออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารของเอกา โกลบอล สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% รวมทั้งยังมีแพ็กเกจจิ้งที่เป็น Bioplastic (PLA) ที่ผลิตจากวัตถุดิบส่วนหนึ่งจากธรรมชาติ เช่น มันสัมปะหลัง ข้าวโพด หรือ อ้อย ฯลฯ และกลุ่มโปรดักท์ Biodegradable ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และสุดท้ายแพ็กเกจจิ้งที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล

ปัจจุบัน บริษัทฯ สร้างกำลังการผลิตเติบโตมากกว่า 2,850 ล้านชิ้นต่อปี เป็นผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดพลาสติกขึ้นรูป (Rigid Barrier Plastic Packaging) รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และสร้างแบรนด์เป็นที่ยอมรับติด Top 5 ของโลก ที่พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ประกอบการอาหารพร้อมทาน อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม และผู้สนใจที่ต้องการเพิ่มแวลู่ให้กับแบรนด์สินค้าและตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ สามารถสัมผัสประสบการณ์จากผู้นำตลาดแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารแบรนด์ไทยเบอร์ใหญ่ระดับโลกได้ โดย “เอกา โกลบอล” ได้จัดทัพนวัตกรรมแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหาร พร้อมนำทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยว ชาญ ออกบูธในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชียแปซิฟิก ณ บูธเลขที่ TT45 ฮอลล์ 1 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม– 1 มิถุนายน 2567 ที่อิมแพคเมืองทองธานี