เรียกว่าเป็นกระแสที่คนไทยหลายคนให้ความสนใจในด้านของรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ที่เริ่มบุกตลาดเข้ามาในประเทศไทยเมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2566 รถยนต์อีวีสัญชาติจีนหลากหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างหนักจนเห็นได้จากยอดจองทะลุ 17,000 คัน ในงาน Bangkok Motor Show 2024 ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อต้นเดือนเมษายน คิดเป็น 32% ของยอดจองทั้งหมดในงาน (รายงานจากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นผลให้ตลาดรถยนต์มือสองนั้นซบเซาลงแต่อย่างใด
โชติวัฒน์ สฤษดิ์เวชวรกุล ผู้บริหาร บริษัท บีบีสมาร์ทคาร์ จำกัด แบรนด์ซื้อ-ขายรถยนต์มือสองที่มียอดขายอันดับหนึ่งในตลาด และมีประสบการณ์ในตลาดรถยนตร์มือสองมากว่า 20 ปี ได้ให้ความเห็นว่า “แม้ว่ากระแสรถอีวีจะได้ความสนใจเป็นอย่างมากในตลาดรถยนต์ และมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรก คันสำรอง หรือคันทดแทน แต่บริษัทขายรถยนต์มือสองก็ยังสามารถอยู่รอดได้ หากรู้จักที่จะปรับตัวและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆด้านอยู่เสมอ”
คุณโชติวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม เปิดเผยถึงปัจจัย 3 อย่างสำคัญที่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับบริษัทให้สามารถอยู่ในตลาดการแข่งขันได้ในระยะยาว โดยปัจจัยแรกคือสินค้า การมีสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการและต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มีรุ่นหรือยี่ห้อรถในใจมาศึกษาและใช้เวลากับเรามาขึ้น ที่ บีบีสมาร์ทคาร์ มีรถมากที่สุดกว่า 1,500 คัน เพราะสิ่งสำคัญคือเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝันของคนไทยเป็นจริงในการออกรถได้อย่างง่ายดาย ในราคาที่เหมาะสม เรามีรถสำหรับครอบครัว ตลอดจนรถสำหรับการประกอบธุรกิจทั้งหมด อีกทั้งการมีการันตีคุณภาพ โดยต้องควบคุมคุณภาพของสินค้าตั้งแต่การเลือกรับซื้อจากต้นทาง ตรวจรับเช็คคุณภาพ การซ่อมบำรุงทำความสะอาดพร้อมตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนนำไปขาย โดยรถทุกคันของที่นี่สามารถตรวจสอบประวัติได้ โดยเฉพาะเลขไมล์ ที่เป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณา ในขั้นตอนการเตรียมขายก็มีรายละเอียด อย่างที่บีบีสมาร์ทคาร์เรามีห้องสตูดิโอที่ใช้ถ่ายรูปสินค้าให้สวยงามสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ แต่ถึงรูปสวยก็ไม่ใช่ว่าจะใช้เป็นเครื่องมือในการลบตำหนิของสินค้า ควรมีการชี้แจงเกี่ยวกับประวัติของรถที่ผ่านมาด้วยความจริงใจ สร้างพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาสำรวจสินค้าได้อย่างใกล้ชิดก่อนการตัดสินใจเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้าและมั่นใจในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญในการค้นหาและเลือกรถของเราคือตามหารถที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเพื่อคนไทยทุกคน
ปัจจัยต่อมาคือเรื่องของการบริการ ปัจจัยสำคัญที่จะเป็น Touch Point หลักของลูกค้าเลยคือพนักงานขาย ต้องเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพ หมายถึงการเข้าใจความต้องการของลูกค้าและสามารถให้คำแนะนำสิ่งที่จะเป็นคำตอบให้ลูกค้าได้ มีข้อมูลสินค้า มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นมิตร และที่สำคัญคือจริงใจในการทำงานให้บริษัทโดยไม่ทิ้งความจริงใจต่อลูกค้าด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้นอกจากตัวพนักงานเองแล้วทางบริษัทก็ต้องเป็นผู้วางระบบภายในให้เข้มแข็งในการฝึกสอนทักษะพร้อมเตรียมเครื่องมือต่างๆที่ช่วยสนับสนุนพนักงานให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกเหนือจากการบริการของพนักงานแล้วนั้น ที่บีบีสมาร์ทคาร์ยังมีบริการจัดส่งรถให้ถึงที่ ฟรี ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการรับประกันที่มอบให้สูงสุดถึง 2 ปีหรือ 20,000 กม. ทั้งนี้ ถ้าหากไม่พอใจคุณภาพ ทางบีบีสมาร์ทคาร์ยินดีซื้อคืนภายใน 14 วัน
ปัจจัยสุดท้ายคือการสร้างนวัตกรรม การสร้างแบรนด์ที่เข้มแข็งให้สามารถอยู่รอดในตลาดการแข่งขันได้ เราต้องเข้าใจตัวเราก่อน ว่าเราคือใคร เราทำอะไร และอะไรที่จะเป็นสิ่งที่จะมาช่วยเสริมแกร่งให้กับเราได้ บีบีสมาร์ทคาร์เราตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมอยู่เสมอ เพราะเราไม่ต้องการให้บีบีสมาร์ทคาร์เป็นแค่เต้นท์รถมือสองทั่วไป แต่ต้องการเป็นแบรนด์ที่ใครได้ยินชื่อก็จะจำได้ทันทีว่าเป็นบริษัทที่ขายรถยนตร์มือสองที่จริงใจเชื่อถือได้ ไว้วางใจได้ทั้งสินค้าและบริการ เราสร้างตัวตนเราขึ้นมาในรูปแบบองเราเองผ่านนวัตกรรม ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ที่ช่วยเชื่อมระหว่าง offline to online ให้ลูกค้าสามารถฟิลเตอร์หารถที่ชื่นชอบได้ทันทีไม่กี่ขั้นตอนบนเว็บไซต์ โดยในปีหน้า เรามีแผนที่จะเปิดตัว BB Flagship store ที่ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือและมีข้อมูลครบครัน ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนที่กำลังเริ่มพิจารณาหารถมือสองคันใหม่
นอกเหนือจากเว็บไซต์ เราสร้าง BB Shooting Studio ขึ้นมาเพื่อให้สามารถถ่ายรูปรถยนตร์หลังการซ่อมบำรุงและทำความสะอาดตรวจเช็คแล้วได้อย่างสวยงาม จากนั้นก็มี Smart Streetlight ที่เป็นโดมโคมไฟยาวกว่า 24 เมตร เพื่อให้มีแสงเพียงพอให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดูสินค้าได้อย่างชัดเจนแม้กระทั่งรอยตำหนิที่มองเห็นได้ยาก มีระบบ Car history display ที่จะช่วยแสดงประวัติการใช้งานของรถตั้งแต่ผู้ใช้คนแรกจนถึงปัจจุบันผ่านหน้าจอพร้อมพนักงานคอยให้บริการข้อมูล
คุณโชติวัฒน์ กล่าวเสริมไว้อีกด้วยว่า “3 ปัจจัยสำคัญเหล่านี้บีบีสมาร์ทคาร์เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แบรนด์สามารถอยู่รอดในการแข่งขันที่มีผู้เล่นใหม่ๆเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืน เพราะการมองสิ่งเดียวกันในฐานะที่ต่างกัน ก็จะได้คำตอบที่ต่างกัน หากมองจากมุมของเต้นท์รถมือสองทั่วไปก็จะมองว่าเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ แต่ถ้ามองจากแบรนด์ที่เข้าใจตลาดและเข้มแข็งก็จะมองเป็นโอกาสธุรกิจที่จะสามารถต่อยอดไปได้อีกในอนาคต”
บริษัท บีบีสมาร์ทคาร์ จำกัด เป็นแบรนด์ซื้อขายรถยนต์มือสองที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย เฉลี่ยเดือนละ 400 คัน มี 6 สาขา ทีมงานมืออาชีพกว่า 260 คน โดยมุ่งเป้าที่จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ของวงการรถยนต์มือสอง ทั้งในด้าน คุณภาพของสินค้า และการรับประกัน หลังการขายอย่างแท้จริง รายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.bbsmartcar.com