GDH จัดงาน “GDH LINEUP 2025 LOOK FORWARD รุก (เกิน) คาด เตรียมออกเดินทางไปพบโปรเจกต์ใหม่จากปีนี้ สู่ปี 2025 ประเดิมต้นปีนำร่องความสำเร็จด้วยภาพยนตร์ “หลานม่า” ที่ทำรายได้ บ็อกซ์ออฟฟิศ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ไปถึง 172 ล้านบาท ทำรายได้ทั่วประเทศ 339 ล้านบาท และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 1200 ล้านบาท เป็นหนังไทยที่ทำลายสถิติทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทำสถิติเป็นหนังที่มียอดคนดูสูงสุดใน อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, เวียดนาม นอกจากนี้ หลานม่า เตรียมเข้าฉายในเทศกาลหนังที่นิวยอร์ค และกำลังฉายที่ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ รวมถึงไปฉายที่จีน,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้ และเตรียมไปเปิดตลาดที่ยุโรป เข้าฉายที่ เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ จากนั้นยังคงเดินหน้าไปฉายทั่วโลก
และในเดือน สิงหาคม พบกับภาพยนตร์ที่ GDH ร่วมทุนกับ JAI STUDIOS ในหนังดราม่า เชือดเฉือน เรื่อง “วิมานหนาม” ผลงานจากผู้กำกับซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ บอส นฤเบศ กูโน โปรดิวซ์โดย วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ นำแสดงโดย เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์, เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล ที่จะเข้าฉายในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ สนุก ตลกสางท้ายปีกับหนังผี คอมเมดี้ “404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN” หนังที่ GDH ร่วมทุนกับ รฤก โปรดั๊กชั่น จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มากฝีมือ ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ เป็นครั้งแรก กำกับโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรง เสือ พิชย จรัสบุญประชา นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง, นุ้ย เชิญยิ้ม, ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว, อาไท สุภทัต โอภาส, ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช แพ่งนคร จากนั้นย้อนรำลึกถึงหนัง “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” ที่ครบรอบ 20 ปีตำนานความระทึกชวัญ นำกลับมารีมาสเตอร์ใหม่ ฉายให้ได้ชมกันอีกครั้ง ผลงานของ 2 ผู้กำกับ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล และ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
ประเดิมเปิดปี 2025 กับภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นการกลับมาร่วมงานกันของ 2 นักแสดงคู่ขวัญสุดฮอต บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่โคจรมาเจอกัน ในหนังคอมเมดี้ “Project Red” ที่ GDH ร่วมกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ หมู ชยนพ บุญประกอบ โปรดิวซ์โดย โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล และ วีรชัย ใหญ่กว่าวงศ์ จากนั้นพบกับหนัง Coming-of-Age/Drama เรื่อง “Flat Girls” ผลงานผู้กำกับหญิงจากซีรีส์ ONE YEAR 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ แคลร์ จิรัศยา วงษ์สุทิน โปรดิวซ์โดย จิระ มะลิกุล และ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ นำแสดงโดย เอินเอิน ฟาติมา เดชะวลีกุล, แฟร์รี่ กิรณา พิพิธยากร, บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ อาโป วชิรากร ตามด้วยเรื่อง “Beauty and The Beat” หนังเวรี่คอมเมดี้ ผลงานผู้กำกับ ไตเติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม โปรดิวซ์โดย เดียว วิชชพัชร โกจิ๋ว และ สุวิมล เตชะสุปินัน นำแสดงโดย ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ปิงปอง ธงชัย ทองกันทม และ นินิว เพชรด่านแก้ว
จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เปิดเผยถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ในครึ่งปี 2567 ว่า “มีหนังเข้าฉายประมาณ 150 เรื่อง ทำรายได้ประมาณ 1,223 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพฯ เชียงใหม่) โดยแบ่งเป็น ภาพยนตร์ไทย 23 เรื่อง ทำรายได้ 439 ล้านบาท ภาพยนตร์ต่างประเทศ จำนวน 127 เรื่อง ทำรายได้ 785 ล้านบาท ซึ่งภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินในต้นปี อันดับ 1 ได้แก่ หลานม่า ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 172 ล้านบาท (ณ วันนี้ยังคงฉายอยู่)
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ครึ่งปีแรก ของปี 2567 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2566 รายได้ภาพรวมลดลงนิดหน่อย ประมาณ 1 % แต่หนังไทย กลับรายได้สูงขึ้น 62% โดยปี 2567 GDH ประมาณการรายได้อยู่ที่ประมาณ 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 214 ล้านบาท หรือ 57% หลักๆ มาจากรายได้ภาพยนตร์ประมาณ 217 ล้านบาท หรือ 37% รายได้จากต่างประเทศ 230 ล้านบาท หรือ 39% ซึ่งรายได้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 5 เท่า โดยสัดส่วนหลักๆ 60 % ของรายได้ทั้งหมดนี้มาจาก หลานม่า”
จินา ได้เปิดเผยถึงการสร้างปรากฎการณ์ของภาพยนตร์หลานม่า” ว่า “หลานม่า เป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้ลูกหลานพาครอบครัว ผู้ใหญ่ ออกมาใช้เวลาดูหนังร่วมกันในช่วงวันหยุด และสร้างกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่ทุกบริษัทออกมาประกาศวันหยุดให้วันที่ 4 เมษายน เป็นวันหยุดเพื่อให้พนักงานกลับไปหาครอบครัว และใช้เวลาอยู่กับคนที่บ้าน นอกจากนี้หลานม่ายังทำรายได้เป็นอันดับ 1 หนังทำเงินบ็อกซ์ออฟฟิศในกรุงเทพ ของค่าย GDH ขณะที่ต่างประเทศ ได้สร้างปรากฏการณ์น้ำตาท่วมจอที่ประเทศอินโดนีเซีย ในรอบพรีวิวฉายวันแรกให้กับอินฟูเอนเซอร์ชื่อดัง ต่างยกให้ หลานม่า เป็นภาพยนตร์ที่งดงามเข้าถึงหัวใจผู้ชมและเชื่อมโยงกับชีวิตตัวเองออกมาบนจอภาพยนตร์ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
จินา กล่าวถึงการเดินทางของ “หลานม่า” ด้วยว่า “ตอนนี้หลานม่า เข้าฉายแล้วที่ อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์, ลาว, มาเลเซีย, บรูไน, สิงคโปร์, เวียดนาม, กัมพูชา, เมียนมา, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง และกำลังเข้าฉายที่จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ซึ่งกำลังรอสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในต่างแดน รวมถึงได้เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 77 ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 172 ล้านบาท (ณ วันนี้ยังฉายอยู่) ส่วนรายได้ทั่วประเทศอยู่ที่ 339 ล้านบาทและยังทำลายสถิติแต่ละประเทศ ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับในประเทศสิงคโปร์ ภาพยนตร์หลานม่ากลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่เปิดตัวรายได้สูงสุด นับตั้งแต่ปี 2013 อีกด้วย ขอขอบคุณผู้ชมและผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ที่นำพาให้หนังหลานม่า ประสบความสำเร็จในทั้งในเมืองไทยและไปได้ไกลถึงทั่วโลก ขอฝากเป็นกำลังใจให้กับหนัง GDH เรื่องต่อๆ ไปด้วยนะคะ 22 สิงหาคมนี้ พบกับหนัง ดราม่า เชือดเฉือน “วิมานหนาม” ในโรงภาพยนตร์”