OR สร้างจุดยืนสุดกรีนอยู่รอบตัว เพราะโอกาสเพื่อสังคมสะอาดเป็นของทุกคน


ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เทรนด์การสื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่มีการพูดถึงกันในวงกว้าง ภาคเอกชน หรือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างชูเป็นกลยุทธ์หลัก หรือเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กรเลยทีเดียว แต่ก็มีคำถามที่ตามมาว่า สุดท้ายแล้วการช่วยเหลือโลก หรือช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นหน้าที่ของใครกันแน่ รัฐบาล องค์กร หรือประชาชนทุกคน

OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในองค์กรยักษ์ใหญ่ของไทย ที่ได้ถ่ายทอดแนวคิดเรื่อง “สังคมสะอาด” มาตลอดช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจที่ไม่ใช่เน้นแค่คุณภาพ หรือความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียว แต่จะต้อง “กรีน” ควบคู่ไปด้วย ความกรีนที่ว่านั้นคือเน้นทำให้สังคมไทยสะอาดขึ้นในทุก ๆ วัน และทุก ๆ มิติ โดยผ่านธุรกิจเครือข่ายของ OR ที่อยากขับเคลื่อนทั้งธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมชุมชนให้เดินหน้าไปพร้อมกัน

ในปีนี้ OR จึงเปิดตัวแคมเปญใหม่ “โออาร์ โอกาสเพื่อสังคมสะอาด” พร้อมกับภาพยนตร์โฆษณาที่ถ่ายทอดเรื่องราวน่ารัก ๆ เปิดด้วยการตั้งคำถามที่ว่า “ใครกันที่จะช่วยทำให้สังคมสะอาดขึ้นได้ในทุก ๆ วัน?” ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเป็นหน้าที่ของใครกันแน่

จริง ๆ แล้วเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ซึ่ง OR ได้ช่วยให้คนไทยช่วยทำให้สังคมสะอาดมากขึ้นผ่านสิ่งที่อยู่รอบตัวแบบง่าย ๆ ผ่าน Ecosystem ของ OR เพราะธุรกิจและโครงการต่าง ๆ ของ OR  ล้วนสนับสนุนความกรีนทั้งสิ้น ด้วยแนวคิดที่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้สังคมสะอาดขึ้น ดีขึ้น ทำให้เกิดความยั่งยืนในทุก ๆ มิติชีวิต

ที่จริงแล้วทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยให้สังคมสะอาดขึ้นได้ผ่านสิ่งที่อยู่รอบตัว หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของ OR ก็มีส่วนช่วยเหลือโลกได้แล้ว

ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดที่สุดก็คือ การเปิด “PTT Station Flagship วิภาวดี 62” เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา โดยสถานีบริการนี้จะเป็นอาณาจักรของสถานีต้นแบบแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ PTT Station ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่สร้างส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีจัดการสถานีบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

PTT Station แห่งนี้ได้ใช้แนวคิดการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน OR SDG ที่เป็นแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ โดยเน้นที่ตัว ‘G’ เป็นเรื่องของความ GREEN สร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) กับเป้าหมายเรื่อง Carbon Neutrality ของ OR ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนจากการออกแบบอาคารสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติในรูปแบบ Green Station ร่วมกับเทคโนโลยีการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon ที่สามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถและยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภค

ที่นี่ยังมี EV Station PluZ ที่เป็นจุดชาร์จรถ EV ที่สามารถใช้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน และได้ขยายจุดชาร์จไปให้ไกลครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด

เรียกได้ว่าการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน มีส่วนช่วยโลกให้สะอาดมากขึ้นได้ เช่น การดื่มกาแฟในร้าน Café Amazon ที่ใช้หลักการคิดแบบ Circular Economy ที่ทำให้ Café Amazon เป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ แต่คือจุดศูนย์รวมของความกรีนที่กระจายตัวอยู่ในทุก ๆ พื้นที่

โครงการเล็ก ๆ อย่าง “โครงการ แยก แลก ยิ้ม” ที่ชวนทุกคนมาร่วมสร้างจิตสำนึก และพฤติกรรมในการแยกขยะ เพื่อขยายเป็นโอกาสนำรายได้จากการขายขยะเหล่านั้นมาสร้างรอยยิ้มให้ชุมชน แม้จะเป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ ก็มีส่วนช่วยสังคมได้มากมายเลยทีเดียว

รวมไปถึงโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ช่วยตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่ลงพื้นที่ให้ความรู้ในการปลูกกาแฟ ยันรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคาที่เป็นธรรม และนำมาเป็นผ่านกระบวนการเป็นกาแฟที่เราดื่มทุกวันนี้ โดยทาง OR จะเปิดจุดรับซื้อกาแฟ ณ โรงแปรรูปเมล็ดกาแฟ Café Amazon อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือเกษตรชาวเหนือให้หันมาปลูกกาแฟที่มีคุณภาพ เพื่อลดปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 ให้กับประเทศไทย

OR ยังมีโครงการดี ๆ อีกมากมายที่มีแนวคิดและวิธีการที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม อย่าง PTT Lubricants ได้เปิดตัวโครงการ “เซฟโลก เซฟรถ เพื่ออนาคตน้อง ๆ โดยสามารถลดขยะพลาสติกจากแกลลอนใช้แล้วถึง 980 แกลลอน น้ำหนักรวมกว่า 240 กิโลกรัม จากการนำมาแปรรูปเป็นชุดโต๊ะเรียนและเก้าอี้รักษ์โลก และได้ส่งมอบให้โรงเรียนบ้านผานัง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง

นอกจากนี้แล้ว OR ได้ร่วมมือกับไทยเวียตเจ็ท นำร่องการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) โดยน้ำมันที่ผลิตจากน้ำมันทำอาหารที่ใช้แล้วหรือที่เรียกว่า UCO (Used Cooking Oil) ที่มีคุณสมบัติทางเคมีที่คล้ายคลึงกับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Jet A-1) และสามารถผสมเข้ากับน้ำมัน Jet A-1 เพื่อให้ใช้ในเครื่องบินได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงเครื่องยนต์ใด ๆ  ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ถือว่าสอดคล้องวิสัยทัศน์ OR SDG  ซึ่งจะอยู่ใน  “G” หรือ “GREEN” ซึ่งมุ่งสร้างโอกาสเพื่อสังคมสะอาด ที่ OR มุ่งเน้นในปีนี้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ OR ได้วางระบบไว้ ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวคนไทยจริง ๆ ตั้งแต่ตื่นนอน ดื่มกาแฟ เดินทาง ล้วนมีส่วนร่วมช่วยทำให้สังคมสะอาดได้จริง ๆ เพราะวันนี้ OR เชื่อว่าสังคมสะอาดไม่ใช่แค่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือการช่วยกันคนละไม้ คนละมือ ในทุก ๆ วันต่างหากคือหัวใจหลักของความยั่งยืน

เพราะโอกาสเพื่อสังคมสะอาด คือโอกาสของพวกเราทุกคน

รับชมโฆษณา https://www.youtube.com/watch?v=2xM2vszkjp0