น้ำ “พระเอก”ของโออิชิ “นางเอก”ของเสริมสุข

น้ำนางเอกก็มีแล้ว แต่ยังขาดน้ำพระเอก โออิชิเลยสวมบทบาทนี้เสียเอง ด้วยการเปิดตัว โออิชิ กรีนที ขวดแก้ว แบบคืนขวด เพื่อเจาะช่องทางร้านอาหาร และร้านตู้แช่ทั่วไป 2 แสนแห่งทั่วประเทศ  หลังจากพบว่า ยอดขายจากร้านอาหารมีสัดส่วนถึง 8,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดน้ำอัดลม 3.5 หมื่นล้านบาท และเป็นขวดคืนมีสัดส่วนถึง 60% 

เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าระดับแมสทั่วประเทศ   งานนี้โออิชิจึงต้องใช้    พระเอกหนุ่มในสังกัด เอ ศุภชัย ถึง 3 คน ประกอบด้วย  “ณเดชน์  หมาก ปริญญ์  และเคน ภูภูมิ”  มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อทำให้ คำว่า  “น้ำพระเอก” ที่ใช้ในหนัง TVC  ที่แพร่ภาพโดดเด่นขึ้น  โดยรสชาติแรกที่ผลิตคือ รสน้ำผึ้งผสมมะนาว ซึ่งเป็นรสชาติที่ผู้บริโภคนิยมอันดับ 1 

แมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า การเปิดตัวโออิชิขวดแก้วครั้งนี้  เพราะมองเห็นโอกาสจากช่องทางร้านอาหารที่ยังมีช่องว่างอยู่   เนื่องจาก การใช้บรรจุภัณฑ์ในร้านอาหารนิยมใช้เป็นขวดแก้วเกือบ 100%   และที่ผ่านมาผู้บริโภคมีทางเลือก แค่สองอย่าง  ถ้าไม่น้ำอัดลมและน้ำเปล่าเท่านั้น  

การร่วมมือกับบริษัทในเครือข่ายอย่างเสริมสุข   ซึ่งโออิชิ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ การบุกเบิกนำชาเขียวขวดแก้วไปยังร้านอาหารได้เต็มที่  และยังเป็นข้อได้ปรียบในการแข่งขัน  ที่โออิชิ ประเมินแล้วว่า คู่แข่งอย่าง อิชิตัน ยากจะตามได้ทัน โดยเฉพาะการผลิตขวดแก้วที่ไม่ใช่ใครจะผลิตได้ง่ายๆ  เพราะวัตถุดิบหายาก และเมืองไทยเวลานี้มีแค่ 2 ค่าย คือ บุญรอด และไทยเบฟฯ เท่านั้น  

เสริมสุขนั้น ได้ชื่อว่า มีจุดแข็งในเครือข่ายช่องทางจำหน่ายเครื่องดื่มเป็นเวลานาน 59 ปี  มีหน่วยรถ 1,200 คัน ทะลุทะลวงไปตามร้านอาหาร ร้านโชวห่วย ตามซอกซอย  และมีตู้แช่ 1.5 แสนตู้ กระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังอยู่ในช่วงที่สัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายระหว่าง เสริมสุข และเป๊ปซี่ กำลังสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมนี้ และเสริมสุข  การเปิดตัวโออิชิ ขวดแก้ว ช่วยให้เสริมสุข มีสินค้ามาเติมให้กับช่องจำหน่ายร้านอาหาร เพราะกว่าที่น้ำอัดลมยี่ห้อใหม่ของเสริมสุขจะเริ่มทำตลาดและติดตลาดก็ต้องใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง  และอัตราการเติบโตของชาวเขียวก็สูงกว่า ตลาดน้ำดำ  ที่แม้ว่ามูลค่าตลาดจะสูงกว่าชาเขียวก็ตาม แต่อัตราเติบโตลดลงเรื่อยๆ เพราะผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพ   และเวลานี้ตลาดน้ำดำก็มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกหลายราย สู้หันมาบุกเบิกตลาดชาเขียว แบรนด์โออิชิเป็นที่รู้จักดีแล้ว แย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า 

นอกจากนี้  บรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้ว ยังเป็นการเปิดสงคราม “ราคา”  กับคู่แข่ง ที่ตั้งราคาไว้ที่ 16 บาท ได้เต็มที่   ซึ่งโออิชิ  ตั้งราคาขวดแก้วไว้ที่ 12 บาท  เพราะการคืนขวดได้ทำให้ประหยัดต้นทุนได้มากกว่าขวด PT งานนี้ก็เลยตั้งเป้าไว้ที่ พันล้านบาทจนถึงสิ้นปี ส่วนปีหน้าว่ากันใหม่ ทั้งการขยายโรงงานผลิต หรือเพิ่มรสชาติ 

ภาพบรรยากาศงานแถลงข่าว