บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 241,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,608 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ (หลังปรับปรุงรายการ) 6,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.1%
การเติบโตดังกล่าวมาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, ค้าส่งค้าปลีก และศูนย์การค้า ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน CPALL มีรายได้รวมจำนวน 730,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ที่เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสุทธิ 18,167 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ (หลังปรับปรุงรายการ) 18,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 46.3%
สัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และอื่น ๆ รวม 52% อีก 48% มาจากธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และศูนย์การค้า
เมื่อมาเจาะมาที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven พบว่า มีการเติบโตที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 107,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยหนุนการเติบโตมาจากเศรษฐกิจฟื้นตัวทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ผ่านบริการ 7-Delivery และ All Online
ขณะที่การขยายสาขา ในไตรมาสนี้มีการเปิดสาขาใหม่ 199 สาขา ทำให้มีจำนวนสาขาทั้งหมด 15,053 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 98 สาขา และมีสาขาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 9 สาขา