‘ยูนิโคล่’ เสี่ยงโดน ‘จีน’ แบน! หลัง CEO หลุดว่าไม่ได้ใช้ ‘ฝ้ายซินเจียง’

ฝ้ายซินเจียง ถือเป็นหนึ่งในผ้าที่ดีที่สุดของโลก และถือเป็นประเด็นแสนละเอียดอ่อนของ จีน ที่ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นจากฝั่งตะวันตกหลายรายต้องปลิวออกนอกประเทศ เนื่องจากมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนบังคับใช้แรงงานชาว อุยกูร์ ในการผลิตผ้า

ล่าสุด แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่ของโลกอย่าง ยูนิโคล่ (Uniqlo) ก็สุ่มเสี่ยงจะโดนลูกค้าในจีนคว่ำบาตร เนื่องจาก ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai) ซีอีโอของ Fast Retailing ได้แสดงความคิดเห็นระหว่างการสัมภาษณ์กับ BBC ว่า บริษัทไม่ได้ใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง แม้ว่าในท้ายที่สุดเขาจะ ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่า ผ้าฝ้ายซินเจียงถูกใช้ในเสื้อผ้าของยูนิโคลหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า เขาต้องการ เป็นกลางระหว่างสหรัฐฯ และจีน

อย่างไรก็ตาม บทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดเป็นไวรัลใน Weibo โซเชียลมีเดียชื่อดังของจีน โดยผู้ใช้หลายคนออกมาแสดงความเห็นประณามและบอกว่าจะ ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท

แม้ว่า Uniqlo จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ตัวซีอีโอบอกเองว่า “ยูนิโคล่ไม่ใช่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก” และเอเชียยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด และตลาดจีนเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของ Fast Retailing โดยเมื่อรวมตลาดไต้หวันและฮ่องกงแล้ว จะคิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 20% เลยทีเดียว

ขณะที่จำนวนสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ของยูนิโคล่ปัจจุบันมีประมาณ 900-1,000 แห่ง แต่ทางซีอีโอเชื่อมั่นว่ามีโอกาสขยายได้ถึง 3,000 แห่ง นอกจากนี้ จีนยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สําคัญของบริษัทอีกด้วย

ที่ผ่านมา ประเด็นผ้าฝ้ายซินเจียงถือเป็นประเด็นสุดอ่อนไหวในจีน เนื่องจากในปี 2022 ฝั่งสหรัฐฯ มีการแบนใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง เนื่องจากสงสัยว่าใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ส่งผลให้แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ได้เลิกใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง อาทิ H&M จนเป็นผลให้ผู้บริโภคชาวจีนร่วมกันแบนจนร้านถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ขณะที่หน้าร้านบางแห่งก็ถูกสั่งปิดไม่มีกำหนด

ปัจจุบัน ยูนิโคล่ต้องเจอกับการแข่งขันที่สูงในตลาดฟาสต์แฟชั่น เนื่องจากการมาของแบรนด์อย่าง Shein และ Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของจีนที่เน้นขายของราคาถูก 

Source