วิลล่าภูเก็ต ครึ่งแรกปี 67 ต่างชาติ-คนไทย แห่ซื้อ ยอดขายพุ่ง 500% โซนบางเทาและเชิงทะเลมาแรง
CBRE ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่การระบาดโควิด อัตราการขายวิลล่าภูเก็ตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2567 ขายได้ 366 หลัง เติบโต 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเติบโต 57.1% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (HoH)
“แต่หากเทียบกับโควิดระบาดหนักในครึ่งแรกของปี 2564 พบว่าขยายตัวสูงถึง 500%”
ทั้งนี้ วิลล่าที่เติบโตโดดเด่นมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- วิลล่าระดับลักซูรี ราคาหลังละ 90 ล้านบาทขึ้นไป
- วิลล่าระดับไฮเอนด์ ราคาหลังละ 35-90 ล้านบาท
- วิลล่าระดับกลาง ราคาหลังละ 15-35 ล้านบาท
สำหรับซัพพลายเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ มีจำนวน 679 หลัง เพิ่มขึ้น 60.9% (YoY) และเพิ่มขึ้น 57.9% (HoH) ส่งผลให้ปัจจุบันมีซัพพลายรวมทั้งสิ้น 4,473 หลัง สัดส่วนหลักกว่า 50% กระจุกตัวอยู่ชายฝั่งตะวันตก (หาดบางเทา เชิงทะเล และหาดกมลา)
กระแสการเติบโต ดึงดูดผู้พัฒนาโครงการให้มีแผนพัฒนาโครงการวิลล่าลักซูรีสำหรับขายในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก โดยได้เฟ้นหาที่ดินในทำเลทองอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการขยายโครงการใหม่ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น
การคาดการณ์จากผู้ซื้อทั้งไทยและต่างประเทศบ่งชี้ถึงดีมานด์ที่สูง ทั้งสำหรับการอยู่อาศัยส่วนตัวและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า มีผลตอบแทนเฉลี่ย 6%-8%
โดยแรงผลักดันจากผู้ซื้อชาวไทย นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาพักผ่อนซ้ำ และชาวต่างชาติที่ย้ายเข้ามาเพื่ออยู่อาศัยพร้อมครอบครัวที่ต้องการเช่าระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะสร้างรายได้จากการเช่าและสร้างรายได้จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นี้