กว่า 130 ปี ที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มต้นธุรกิจด้วยปณิธานในการเป็น “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต” ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค แนวคิดนี้จึงเสมือนเป็นหัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการผุดคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของโอสถสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นพอร์ตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ แม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่หลายหลาย แต่ทุกสินค้าก็ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือเครื่องดื่มของโอสถสภาต้องไม่เพียงแค่ดับกระหายคลายร้อน เติมความสดชื่นระหว่างวันเท่านั้น แต่ในทุก ๆ หยด ต้องอุดมไปด้วยคุณประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ดื่ม นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจส่งมอบเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติ “ดับกระหาย ได้คุณประโยชน์” ประกอบกับประเทศไทยมีสถิติจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย ด้วยเหตุนี้ โอสถสภาจึงนำหลักการเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO) และแนวปฏิบัติทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีของประเทศไทย มาใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ด้านสุขภาพและโภชนาการ รวมถึงเป็นหลักการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น โดยดำเนินผ่านสองกลยุทธ์หลัก นั่นคือการลดน้ำตาลและผสานคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ
เดินหน้าลดน้ำตาลลงต่ำกว่า 6% เกือบยกพอร์ต
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยว่าปริมาณการบริโภคน้ำตาลของคนไทยลดลงจาก 27 ช้อนชาต่อวัน เหลือ 23 ช้อนชาต่อวัน แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน โดยที่น้ำตาลส่วนเกินนี้มาจากเครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมาคืออาหาร และขนม สะท้อนพฤติกรรมและวัตนธรรมการกินของคนไทย ที่ “กินคาว ต้องกินหวาน” ทำให้สัดส่วนการบริโภคน้ำตาลในชีวิตประจำวันค่อนข้างสูง ดังนั้นแล้วภารกิจแรกในการส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้บริโภคคือการลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม
“หากมองแค่เพียงผิวเผิน การลดน้ำตาลในเครื่องดื่มอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ความท้าทายคือการทำอย่างไรให้เครื่องดื่มแต่ละประเภทยังคงรสชาติที่อร่อยถูกปากผู้บริโภคเหมือนเดิม นี่เป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราทำงานอย่างหนัก ซึ่งในปัจจุบัน 99% ของพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มในประเทศของโอสถสภา มีส่วนประกอบของน้ำตาลน้อยกว่า 6%” ดร. วิลเลียม ลีโอ Chief Innovation Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าว
อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคุณประโยชน์
นอกเหนือจากการปรับเครื่องดื่มให้มีน้ำตาลน้อยและอร่อยเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจที่สองที่โอสถสภาทำเพื่อผู้บริโภคคือการเพิ่มเติมคุณประโยชน์ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปทั้งเรื่องอาหารการกิน และการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเล็งเห็นโอกาสในการช่วยสร้างความสมดุลด้านโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภคในบริบทต่าง ๆ อย่างเช่น คนวัยทำงานและนักศึกษา ที่มองเครื่องดื่มเติมความสดชื่นระหว่างวัน โอสถสภาก็ได้พัฒนา “M-150 Sparkling Energy Drink” เครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบอัดก๊าซที่ถูกเรียกกันจนติดปากว่า “มิโซ (Miso)” เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการ โดยนอกจากจะเป็นสูตรที่ไม่เติมน้ำตาลและใช้ส่วนผสมจากคาเฟอีนธรรมชาติแล้ว ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังเพิ่ม วิตามิน บี 3 บี 6 และบี 12 ที่มีประโยชน์ต่อระบบสมองและประสาท รวมถึง Zinc ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ L-Carnitine ที่มีบทบาทสำคัญต่อขบวนการสลายกรดไขมันในร่างกาย เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคแทนการดื่มกาแฟหรือน้ำอัดลมทั่วไปที่อาจแฝงมาด้วยน้ำตาลและไขมันส่วนเกิน
อีกทั้งพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนในปัจจุบันที่เป็นเรื่องยากในการจะได้รับกากใยจากผักและผลไม้อย่างเพียงพอในแต่ละมื้ออาหาร โอสถสภาจึงคิดค้นหาวิธีช่วยเพิ่มสมดุลทางโภชนาการ โดยการเติมใยอาหารลงไปในเครื่องดื่ม “คาลพิส แลคโตะ” สูตรใหม่ ที่อุดมไปด้วยแลคโตบาซิลลัสและไฟเบอร์ 5,000 มิลลิกรัม เพื่อช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหารและการขับถ่าย หรือนวัตกรรมล่าสุดของเครื่องดื่ม “ซี-วิท” ที่มีการปรับสูตรเพิ่มวิตามินซีสูงถึง 1,000 มิลลิกรัม จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญและต้องการการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะวิตามินซีที่เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นวัตกรรมเหล่านี้จึงเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความพยายามในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ผ่านการเติมส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการลงไปในเครื่องดื่มทุกขวดของโอสถสภา ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ หรือสารสกัดจากพืชและสมุนไพรที่มีประโยชน์
ยกระดับการส่งเสริมสุขภาพ ผ่านนโยบายและมาตรฐานรับรอง
ด้วยความมุ่งมั่นส่งมอบนวัตกรรมเครื่องดื่มให้ “ดับกระหาย ได้คุณประโยชน์” ผ่านการลดปริมาณน้ำตาล ลดโซเดียม และเพิ่มเติมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ ทำให้เครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ของโอสถสภาถึง 75% ได้รับตรารับรอง “เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ” นอกจากนี้ โอสถสภายังคงมุ่งหน้ายกระดับการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยได้มีการประกาศนโยบายด้านโภชนาการและสุขภาพ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีคุณค่าทางโภชนาการ มีรสชาติดี และจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงง่าย โดยครอบคลุมการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องดื่มซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัท อีกทั้งยังกำหนดให้มีการทบทวนเกณฑ์โภชนาการอย่างสมํ่าเสมอ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่กับการดำเนินแผนงานด้านความยั่งยืนตามหลัก ESG มุ่งสู่การเป็น “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน