อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของจังหวัดภูเก็ต กำลังเฟื่องฟูไปพร้อมกับความตื่นเต้นและการคาดหวัง
การเจรจาในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาระหว่างองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ “มารีนอัลลายแอนซ์ออฟไทยแลนด์” (เอ็มเอที) กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้ตระหนักถึงสิ่งที่ประเทศกำลังเสียโอกาสที่จะกลายเป็นจุดหมายหลักระดับโลกสำหรับเรือ อันเนื่องด้วยกฎหมายและระเบียบที่ล้าสมัยและไม่ได้นำไปใช้อย่างทั่วถึง
จากการสัมมนาเมื่อเร็วๆ นี้ที่กรุงเทพฯซึ่งตัวแทนของเอ็มเอทีได้รับเชิญให้อภิปรายในหัวข้อต่างๆ กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกรม กองต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อทำให้ภูเก็ตกลับมาเป็นผู้นำด้านธุรกิจเรือยอชท์และที่จอดเรือของเอเชีย
ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ธุรกิจเรือยอชท์และการท่องเที่ยวทางทะเลมีศักยภาพในการสร้างเม็ดเงินได้ป็นพันๆ ล้านบาทเข้าประเทศ” และกล่าวเสริมอีกว่าทางกระทรวงจะให้ความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยจะร่วมกันกับหน่วยราชการอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาโดยทันที
ภาษีในอัตราสูงและระเบียบที่ยุ่งยาก (ซึ่งรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่คำจำกัดความของเรือยอชท์ ไปจนถึงสิทธิของคนต่างชาติที่ถือใบอนุญาตกัปตันเรือไทย และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองที่ยุ่งยาก) เป็นผลให้เรือยอชท์ทั้งหลายเมินหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างหมู่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลย์เซีย โดยปฏิเสธการเข้ามาใช้สถานที่ที่ภูเก็ตซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นจุดหมายที่เยี่ยมยอดสำหรับเรือ
ผู้จัดงานแสดงเรือนานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย “ภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนลมารีนเอ็กซโป 2003” (ไพเม็กซ์) ได้เปิดตัวอย่างเป็ฯทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ศกนี้ ที่คอร์ทยาร์ด ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต คาดการว่าการจัดงานในครั้งนี้จะนับเป็นรายแรกๆ ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบครั้งนี้
มร.แกรนวิลล์ ฟอร์ดแฮม กรรมการผู้จัดการ อิมเมจ เอชีย ผู้จัดวานไพเม็กซ์กล่าวว่า “อุตสาหกรมมการท่องเที่ยวทางทะเลในจังหวัดภูเก็ตได้ถูกคาดหวังว่าจะเจริญรุดหน้ามาหลายปีแล้ว แต่กลับถูกรั้งด้วยกฎระเบียบที่โบราณและวกเวียน ที่ทำให้เจ้าของเรือยอชท์หรือผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าเรือยอชท์รู้สึกว่าไม่ได้รับการต้อนรับ ดังนั้นจึงนับว่าเป็นการขัดขวางการพัฒนาศักยภาพที่แท้จริงของภูเก็ต”
มร.ฟอร์ตแฮม กล่าวอีกว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ มีแนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ งานไพเม็กซ์ซึ่งจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 7 – 10 ธันวาคม ศกนี้ เป็นงานแสดงที่จัดริมน้ำโดยเป็นการผสมผสานการจัดแสดงเรือที่ทอดสมอ ทั้ง 26 ลำ การนำเรือขึ้นแสดงบนบก และการแสดงในห้องโถงซึ่งเป็นเต็นท์ปรับอากาศขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดนนี้จะถูกแสดงภายใต้สถานที่ที่งดงามของภูเก็ตโบ๊ทลากูน
สถานที่จอดและอุปกรณ์บริการต่างๆ นั้น ทางรอยัลภูเก็ตมารีน่ารีสอร์ตแอนด์สปา เป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งมารีน่าใหม่นี้อยู่ติดกับภูเก็ตโบ๊ทลากูน งานแสดงครั้งนี้เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทางทะเล ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับการเลือกมาร่วมแสดงด้วย